หน้าแรก เขียนใบสมัครงาน ลงโฆษณางาน ค้นหาใบสมัครงาน คู่มือการใช้งาน Menu

สนใจลงโฆษณา โทร. 02-275-1900, 02-612-4900, 038-395000

space
   ค้นบ่อย : หางานบัญชี, หางานธุรการ, หางานจัดซื้อ, หางานผู้จัดการ, หางานขับรถ, หางานบุคคล, หางานคลังสินค้า, หางานครู, หางานวิศวกร, หางานเขียนแบบ, หางานคีย์ข้อมูล, หางานการตลาด, หางานโรงแรม, หางานสิ่งแวดล้อม, หางานคอมพิวเตอร์, หางาน Programmer, หางานประชาสัมพันธ์, หางานช่าง, หางานสถาปนิก
เรื่อง ฉายภาพจับทิศเศรษฐกิจ'48
เขียนโดย ต้นข้าว

Rated: vote
by 6 users

คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?

 




ฉายภาพจับทิศเศรษฐกิจ'48

เมื่อปลายปี 2546 ก่อนที่จะเข้าสู่ปี 2547 ที่เพิ่งผ่านพ้นมา เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่าง ก้าวกระโดด ด้วยอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 6.8% ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ดีดขึ้น อย่างรวดเร็วสูงกว่า 800 จุด ทำให้ทุกฝ่ายประเมินภาพเศรษฐกิจไทยปี 2547 ว่าจะทะยานต่อสู่ดวงดาว ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 7-8%

แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2547 จริงๆ ปัจจัยลบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า ทั้งจากในประเทศและ ต่างประเทศ ต่างเข้ามาบั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย อาทิ สถานการณ์ความรุนแรง ในภาคใต้ การระบาดของไข้หวัดนก และราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทำให้ภาพรวมปี 2547 แม้ว่าจะยังเติบโตได้ในอัตราที่ดี แต่ไม่พุ่งพรวดพราดอย่างที่ทุกคนหวัง

ในช่วงขึ้นปีใหม่ 2548 นี้ “ทีมเศรษฐกิจ” จึงประมวลภาพเศรษฐกิจไทยปี 2547 รวมทั้งการประมาณ การเศรษฐกิจปีนี้ ให้เห็นภาพชัดเจนว่าจะเติบโตต่อไปอย่างไร ท่ามกลางปัญหาเดิมที่ค้างคาอยู่ รวมถึงความผันผวน และปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ ที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น

ความรุนแรงภาคใต้-ไข้หวัดนกกระหน่ำ

จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2546 ที่ติดเครื่องได้อย่างกระหึ่ม ส่งผลให้เกิดพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2547 ให้ยังขยายตัวได้ต่อ โดยมีภาคการส่งออกซึ่งขยายตัวอย่างโดดเด่นเพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อนเป็นพระเอกของปี จากผลการฟื้นตัวของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และปริมาณการค้าโลก

ในขณะที่การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน เป็นตัวช่วยหลักในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นกว่า 6% จากปีก่อน จากนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล ด้านการลงทุนภาคเอกชน ปี 2547 เพิ่มขึ้นในอัตราสูงเช่นกัน จากการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในหลายภาคจนเต็มกำลังการผลิต และจำเป็นต้องขยายกิจการเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม จากการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ (สศช.) ประมาณการว่า การเติบโตของเศรษฐกิจปี 2547 ที่ผ่านมา ขยายตัวระหว่าง 6-6.3% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเดิมในช่วงต้นปี เนื่องจากปัญหาและ ปัจจัยลบนานาประการที่ดาหน้า เข้ามาบั่นทอนเศรษฐกิจไทย

ปัญหาแรกที่เข้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปีอย่างไม่มีใครคาดคิด คือสถานการณ์ความรุนแรง และกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ เริ่มจากการปล้นปืนทหาร ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่มัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี และลุกลามต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี จนถึงเหตุการณ์ล่าสุดการสลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งสถานการณ์ เหล่านี้ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนและ นักลงทุนอย่างรุนแรง

ประกอบกับการระบาดของไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นรอบแรกในช่วงเดือน ก.พ. และยังมีการ ระบาดรอบ 2 ต่ออีกในช่วงฤดูฝน ส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องฆ่าเป็ดไก่เพื่อป้องกัน โรคระบาดดังกล่าวลุกลาม รวมกันทั้งสิ้นกว่า 60 ล้านตัว การส่งออกไก่สดของไทยไปต่างประเทศหยุดชะงัก

ความเสียหายของไข้หวัดนก ธปท.ประเมินว่า สร้างความเสียหายให้กับ เศรษฐกิจไทยคิดเป็นเม็ดเงิน 50,000-60,000 ล้านบาท โดยการส่งออกไก่สด แช่แข็งของไทย ลดลง 91% ส่งผลลบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ให้ลดลง 0.7%

พิษน้ำมันแพงทำใช้จ่าย-ลงทุนหด

นอกเหนือจากไฟใต้ และไข้หวัดนกที่สกัดการขยายตัวในช่วงครึ่งปีแรกแล้ว ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็เป็นอีกปัจจัยหลักที่เข้ามาบั่นทอนเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง

ราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 27 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในปี 2546 เป็นเฉลี่ย 35 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ณ สิ้นปีนี้ ราคาน้ำมันขายปลีกของไทยขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่ารัฐบาลจะใช้นโยบายอุดหนุนราคาน้ำมันแล้วก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลสิ้นปี 2547 อยู่ที่ 14.59 บาทต่อลิตร และราคาน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 19.29 บาทต่อลิตร โดยกองทุนน้ำมันใช้เงินอุดหนุนราคาน้ำมันไปแล้วทั้งสิ้น 60,000 ล้านบาท

ปัจจัยราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากนี้เอง ได้ซ้ำเติมให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนลดลง ต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกลดลงอย่างรวดเร็วในครึ่งปีหลัง และอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ ความเชื่อมั่นลดลง คือการปรับเปลี่ยนนโยบายอัตราดอกเบี้ยของ ธปท. จากนโยบายดอกเบี้ยขาลงเป็นดอกเบี้ยขาขึ้นเพื่อดูแลเงินเฟ้อ

ผลจากความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มแสดงชัดขึ้นในปลายไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่องไตรมาสที่ 4 การใช้จ่ายภาคเอกชนชะลอตัวต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนใหม่เกิดช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า

ภัยธรรมชาติเป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรประมาท ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง อย่างกรณีคลื่นยักษ์ สึนามิถาโถมเข้ามาสร้าง ความเสียหายให้กับฝั่งอันดามันของไทย ซึ่งจะเป็นปัญหากับ การท่องเที่ยวต่อไปจนถึงปีหน้า แต่ยังดีเศรษฐกิจไทยมีจุดแข็งจากแรงขับเคลื่อนเดิม และการส่งออกที่เพิ่มขึ้นช่วยประคองให้เติบโตได้ตลอดรอดฝั่ง

โดยสรุปแล้ว เศรษฐกิจไทยในปี 2547 ถึงจะมีปัจจัยลบมาทำให้เศรษฐกิจขยายตัวไม่ได้ตามเป้า แต่อัตราการขยายตัวที่ 6.2% ถือว่าไม่ใช่ระดับที่เสียหาย และที่สำคัญเป็นการเติบโตที่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เห็นได้จากฐานการคลังที่ดีขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลถึง 4.2% ของจีดีพี และทุนสำรองทางการที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์.

* * * * * * *

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจปีไก่ 2548 นี้ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนประเมิน ภาพเศรษฐกิจตรงกันว่า พลังขับเคลื่อนที่ยังมีต่อเนื่อง จะทำให้เศรษฐกิจปีนี้มีแรงที่จะ ขยายตัวต่อไปได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หรือขยายตัวลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย เฉลี่ยเติบโตอยู่ที่ 5.5-6.2%

โดยภาพรวมของเศรษฐกิจในปีนี้มีความผันผวนมากขึ้น ทั้งจากปัจจัยเสี่ยงเดิมๆ ที่สะสางไม่เสร็จสิ้น และอาจต้องรับมือกับปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ ที่มาจากเศรษฐกิจต่างประเทศที่วิกฤติมากขึ้น

ยังเดินหน้าเพิ่มส่งออก-ลงทุน

ในช่วง 3 เดือนแรกของปี จะเป็นช่วงของการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงแรก อย่างไรก็ตาม หากไม่พลิกล็อกครั้งมโหฬาร รัฐบาลใหม่ที่จะบริหารประเทศต่อไป คงจะเป็นรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรีคนเดิม

ทั้งนี้ คาดกันว่าในช่วงต้นปีนี้ เม็ดเงินที่สะพัดเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน และเม็ดเงินที่เข้ามา รองรับการเลือกตั้ง จะทำให้ภาคการใช้จ่ายภาคเอกชนกลับมาขยายตัวในอัตราที่ดีขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่ตลอดทั้งปี การส่งออกจะยังเป็นกลจักรหลักในการขยายตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จากเศรษฐกิจสหรัฐฯและญี่ปุ่น รวมทั้งการจำกัดการเติบโตของเศรษฐกิจจีน จะส่งผลให้การส่งออกของ ไทยขยายตัวในอัตราต่ำกว่าปีที่ผ่านมา แต่จะยังเพิ่มขึ้นได้ในอัตราที่สูงถึง 10-19% จากปีก่อน

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนนั้น ปี 2548 คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าปี 2547 เช่นกัน เนื่องจากภาคอุตสาหกรรม ได้ใช้กำลังการผลิตเต็มกำลังแล้ว ในหลายภาค ทำให้ต้องหันมาลงทุนใหม่เพิ่มเติม แต่อัตราเพิ่มขึ้นนั้น จะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการเรียก ความมั่นใจจากนักลงทุนของรัฐบาล

การมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เข้าตากรรมการเป็นเรื่องหนึ่งที่จะเรียกความมั่นใจ กลับมา จากนั้นขึ้นกับว่า รัฐบาลใหม่จะมีแนวทางรับมือกับปัจจัยเสี่ยงทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่จะเข้ามาได้ดีเพียงพอหรือไม่

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวน่าเป็นห่วง เพราะการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงกว่า 10 เมตร โหมกระหน่ำ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ดูดเม็ดเงินท่องเที่ยวปีละจำนวนมหาศาล ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้คนเสียชีวิตจำนวนมาก อาจจะสร้าง ผลกระทบต่อการจองที่พักและการท่องเที่ยวในปีนี้ได้

ศึกหนักในประเทศตามประชิด

สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้เป็นอีกเครื่องมือในการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้น ในปี 2548 นี้ เม็ดเงินที่จะเข้ามาจริงคงมีไม่มาก

แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลงทุนที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ จะเป็นภาระผูกพันเศรษฐกิจไทย ในวันข้างหน้า สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ชี้ว่า รัฐบาลต้องตัดสินใจให้รอบคอบในโครงการที่คุ้มค่าที่สุด เพราะหากลงทุนใน โครงการขนาดใหญ่ ในวงเงินที่มากเกินไป และใช้วัตถุดิบที่ต้องนำเข้าสูงเกินไป จะเสี่ยงต่อความอ่อนแอด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว และส่งผลให้ไทยกลับเข้าสู่วิกฤติเศรษฐกิจอีกครั้ง

ความรุนแรงในภาคใต้เป็นอีกความเสี่ยงหนึ่งที่ต่อเนื่องมาจาก ปีก่อนที่จะกดดันความเชื่อมั่นของคนไทยและ นักลงทุนต่อไปในปีนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งหาแนวทางขจัดปัญหา รวมทั้งป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามจนกลายเป็นเรื่องของขบวนการการก่อการร้ายสากล ซึ่งจ้องจะใช้เวทีภาคใต้ของไทยเป็นเวทีแสดงพลังอำนาจ

หากรัฐบาลสามารถจบเรื่องนี้ได้เร็วเท่าไร ความมั่นใจจะกลับมาเร็วเท่านั้น ซึ่งหมายถึงการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น และการลงทุนใหม่ที่รีรออยู่จะทะลัก เข้ามาอย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้น การกลับมาระบาดของไข้หวัดนก โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่กลายเป็นโรคประจำภูมิภาค ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลับมาระบาดทุกปี รวมทั้งโรคใหม่ๆที่ไม่ได้คาดหมายอื่น เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะกลับมากระทบ สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยได้เช่นกัน

มรสุมปัจจัยเสี่ยงนอกบ้านจ้องถล่ม

ทั้งนี้ นอกจากปัจจัยในประเทศแล้ว ปัจจัยเสี่ยงที่มาจากต่างประเทศในปีนี้จะมีความรุนแรง ไม่แพ้กัน เพราะมีการคาดการณ์ว่า ค่าดอลลาร์สหรัฐฯที่จะอ่อนค่าต่อเนื่องในปีนี้ จากผลของการขาดดุลการค้าและดุลการคลังของสหรัฐฯรวมกันกว่า 600,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จะเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ของเศรษฐกิจโลก

ด้านหนึ่ง การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ จะกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินสกุลหลัก ของโลก รวมทั้งค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะค่าเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงและความผันผวนที่จะเกิดขึ้นจะกดดันต่อค่าเงินบาท และทิศทางการส่งออกของไทยให้ผันผวนอย่างหนัก

อีกด้านหนึ่ง ความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความไม่เชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์ ที่เกิดขึ้นจะก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐฯเหมือนกับที่เคยเกิดในประเทศ ซึ่งจะกระทบเศรษฐกิจต่อเนื่องไปทั่วโลก และย่อมจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยให้ลำบากมากขึ้น

ในขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และราคาน้ำมันที่จะเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ จากการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลดีดขึ้นไปอยู่ที่ลิตรละ 17-18 บาท รวมทั้งราคาน้ำมันโลกที่ยังมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและ การก่อการร้ายบ่อน้ำมันที่จะรุนแรงขึ้น ตามแนวทางของกลุ่มอัลเคดา ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ถือเป็นอีกปัญหาหนักที่ต้องหาทางแก้ไข

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงรอพิสูจน์ความสามารถรัฐบาล และความเชื่อมั่นของคนไทย แต่ถ้าทุกคนช่วยกันแก้ปัญหา เศรษฐกิจปีไก่ยังจะบินติดลมบนต่อไปได้โดยไม่ถลาร่อนลง.

ทีมเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทรัฐ  ปีที่ 56 ฉบับที่ 17151 วันพุธที่ 5 มกราคม 2548

http://www.thairath.co.th/thairath1/2548/scoop/economic/jan/03/s_economic.php




ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้ ...

 

user_icon

Knowledge Center
knowledge center
knowledge

star

อยากรู้ไหม เวลาคุณหัวเราะ หมายถึงอะไร
 
เรื่องน่ารู้ตามหมวดหมู่
• การแพทย์
• ความรู้ทั่วไป
• เรื่องของผู้หญิง
• กีฬา
• ข่าวและสื่อ

และอื่น ๆ อีกมาก

  ค้นหาเรื่องที่คุณสนใจ
ระบุ keyword
 
True vision

TV Icon

TV Interview

หลากเรื่องราวทางธุรกิจ แง่มุมของผู้บริหาร จากบริษัทชั้นนำต่างๆ

dot
HR Corner
สัมภาษณ์คัดเลือกผู้สมัครงานอย่างไร? ให้ตรงสเป็ค
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
 
The Seeds of Innovation นวัตกรรมใหม่แห่งการพัฒนาบุคลากร
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
 
การสร้างความแตกต่าง ให้เหนือคู่แข่ง
คุณมกร พฤฒิโฆสิต
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
dot

https://www.jobpub.com/new_images/playall_b.gif

 

หางานบ่อย : วุฒิ ม6 งานแถวบางแค Bangkok ไม่จำกัดเพศ มีที่พักฟรี ต่างประเทศ ม.6 งานsaff หางานวงเวียนใหญ่ พนักงานนครราชสีมา บริษัทไทยประกัน สุขุมวิท นายแบบ หาดใหญ่ ขายสมาชิค ภาษาเกาหลี การเงิน+ธุรการ+บัญชี หางานAccountant วุฒิ ม.6สมุสาคร บริษัทAFM จ.เชียงใหม่ รับแม่บ้าน tel Home Mart ม.เกษตร บางเขน เทสโก้โลตัสเชียงใหม่สาขาหางดง ผู้จัดการแผนกบัญชี ผู้ชาย กรุงเทพ ดินแดง ห้วยขวาง พญาไท ปทุมวัน ชั่ง สุขุมวิท51 ywoyyppw สมัครงานระดับวุฒิ ปวส.(ภูเก็ต) บริษัท ไทยซัมมิท บางกะปิ รามคำแหง แม่บเา่น วุฒิ ม.6จ.นนทบุรี โรงพยาบาล เปา โล 506665 ช่ากลึง ม.ราม 2 บ.ลิสซิ่ง สมัครงานวุฒิม.6ฟิสเนส พนักงานบัญชีี ธุรการจัตุจักร จัดเรียงสินค้านครปฐม เมกกะ บางนา QC หัวหน้า ผลิต วุฒิ ม.6กหางาน เขตบางกะปิิ O2U วุฒิม.6พัยา บัญชี, ปวส. หางานกุ๊กยุโรปที่พิษโลก ps consultants tuf