กว่าจะได้ทำงาน…..อีกครั้ง

น้องๆที่กำลังจะเรียนจบ และพึ่งจบยกมือขึ้น พี่มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการหางานให้ได้งานมาเล่าให้ฟังอะค่ะ

1. น้องๆ รู้จักรุ่นพี่ที่ทำงานแล้วบ้างรึยังค่ะ พยายามทำความรู้จักเข้าไว้นะค่ะ เพราะมันจะช่วยให้น้องๆหางานได้เร็วขึ้นเยอะเลย
2. สถาบันที่น้องๆ ศึกษาอยู่ เขาได้ให้ฝึกงานก่อนจบบ้างไหมค่ะ ถ้ามีนั่นล่ะก็ ใช่เลย น้องๆ ต้องหาที่ฝึกงานที่น้องๆคิดว่าอยากเข้าไปทำงานที่นั่น อยากทำงานแบบนั้น อย่าเลือกแบบช่างมันเถอะที่ไหนก็ได้เพราะน้องๆ จะมารู้สึกเสียดายมากๆทีหลังจะหาว่าพี่ไม่เตือน เมื่อเข้าไปฝึกงาน ทำงานให้ดีที่สุดเลยนะค่ะ ให้เขามองเราด้วยสายตาชื่นชมว่า “ไอ้เด็กคนนี้มันเก่งนะ” “สถาบันนี้เขาสอนเด็กมาดีนะ” เพื่อตัวน้องเองนะค่ะ และก็เพื่อรุ่นน้องที่น้องๆรัก ถึงไม่รักก็เหอะ เพราะไม่แน่นา ที่ทำงานในอนาคตจของน้องมันก็อาจจะเป็นที่น้องๆฝึกงานนะแหละ
3. เตรียมตัวหางานกันไว้หรือยังค่ะน้องๆที่ยังไม่จบ น่าโชคดีไปนะค่ะ สำหรับคนที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด พ่อแม่มีบริษัทไว้รองรับ ไม่ต้องหางานให้ปวดหัว แต่ถ้าเป็นเราๆ ท่านๆ พี่ว่านะ หางานตั้งแต่วันนี้เถอะค่ะ อย่ามารอหาตอนจบเลย หาอย่างไงใช่ไหมค่ะ พี่เชื่อนะว่าสถาบันแทบทุกสถาบันมีอินเทอร์เน็ตนั่นหล่ะค่ะ วิธีที่ง่ายที่สุด อีกวิธีก็คือ สถานที่ที่น้องเคยฝึกงานอ่ะค่ะ ลองเลียบๆเคียงถามเขาดูสิว่า ช่วงหลังจากน้องจบอ่ะประมาณเดือนนี้ๆ บริษัทเขาอ่ะจะรับคนเพิ่มบ้างไหม ถ้ามีพี่ช่วยบอกหนูทีนะค่ะ หนูอยากมาทำงานกับพี่อีกครั้ง หยอดหวานสักนิดแต่อย่าเวอร์ พี่รับรองได้เลยนะว่าถาน้องทำตัวน่ารัก ทำงานได้ดีตอนฝึกงาน น้องมีโอกาสได้งานสูงค่ะ อีกวิธีหนึ่งก็ พี่ๆที่เขาทำงานแล้วอะค่ะที่น้องซี้ๆมีใครบ้าง ลิสต์รายชื่อออกมาเลยนะค่ะ แต่พี่จะบอกอะไรให้อีกอย่างนะ คนเหล่านี้ต้องเป็นคนที่น้องๆติดต่ออย่างสม่ำเสมอนะ ไม่ใช่ ไม่เคยติดต่อเลยพอจะหางานแล้วไปหาเขา วิธีการที่จะพูดกับเขาบอกไปตรงๆเลยนะค่ะ พี่ค่ะหนูหางานอยู่อ่ะค่ะ บริษัทพี่รับคนบ้างไหมค่ะหนูจบสาขานั้นนี้มาบอกเขาไป แล้วเขาจะบอกรายละเอียดน้องเอง ถ้ารับ น้องก็รีบเลยนะค่ะเตรียมเอกสารต่างๆ สมัครเลยค่ะ พอสมัครเสร็จโทรบอกพี่เขาไปเลยหนูไปสมัครแล้วนะค่ะ พี่ช่วยดูให้หนูที อย่าหยิ่งเชียวนะค่ะ เพราะถ้าหยิ่งแล้วน้องไม่เก่งกาจจริงๆ น้องไม่ได้งานแน่ค่ะ
4. ถึงเวลากรอกเอกสารสมัครงานแล้วนะค่ะ สำหรับน้องที่ไม่มระสบการณ์ในการทำงานเลยแนะนำใหไปสมัครด้วยตนเองที่บริษัทเขาเลย แต่สำหรับน้องที่มีประสบการณ์แล้วจะสมัครทาง อีเมล หรือส่งจดหมายสมัครก็ตามแต่สะดวกค่ะ วิธีการกรอกก็กรอกไป ปกติ เอาความจริงมาเล่า โม้สรรพคุณไปสักนิด แต่ต้องไม่ผิดไปจากความเป็นจริง คือโม้ไปว่าทำนั้นทำนี้ได้ ถึงแม้จะไม่ดี แต่ให้ทำได้และกัน สำหรับน้องที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน ในช่องประสบการณ์สำหรับการทำงาน น้องลงประวัตติการฝึกงานของๆน้องไปนะค่ะ ฝึกอะไรบ้าง บริษัทไหน ทำหน้าที่อะไร ( เห็นไหมพี่บอกแล้วแต่ต้น สถานที่ฝึกงานนะสำคัญ ) แต่สำหรับน้องที่มีประสบการณ์มาแล้วอ่ะ อาจเป็น 10ๆ ที่ แต่ที่ละเดือน สองเดือนละก็ เลือกเลยที่ที่ดีที่สุด ตรงกับงานที่จะสมัครเป็นที่สุด แค่ 3 บริษัทพอค่ะ ไม่ต้องคิดว่าผ่านมาหลายบริษัทดีนะค่ะ ไม่จริงค่ะ เอาแค่ 3 พอ แล้วระยะเวลาในการทำงานก็ลงให้ดูดีหน่อยนะเจ้าค่ะ ไม่ใช่ ออกบริษัทนั้นเดือนมกรา ไปทำบริษัทนี้เดือนกุมภาเลย ห่างไว้สักเดือนก็ดี และแต่ละบริษัทควรเกิน 3 เดือนนะเจ้าค่ะ ลงไปเถอะค่ะเขาไม่มาสอบถามเราหรอกว่าทำจริงกี่เดือน แต่สิ่งที่สำคัญนะ ที่น้องบอกว่าทำกี่เดือนๆนะ ทำอะไรมาบ้าง ทำจริงไหม ทำจริงไหมที่ว่านี้คือ พอเขาให้น้องลองทำอะ น้องต้องทำได้ค่ะ อีกบรรทัดนึงที่สำคัญ เขาจะมีที่ให้กรอกว่า รู้จักใครในบริษัทนี้บ้างไหม ลงไปเลยนะค่ะ ไม่รู้จัก ไม่ต้องไปพยายามที่จะรู้จักนะค่ะ อย่าทำตัวให้สำคัญเกินเหตุค่ะ รู้จักแต่ไม่สนิท มันไม่ช่วยอะไรเลย แต่ถ้าเป็นญาติเพื่อนสนิทละก็ลงไปได้นะค่ะ เพราะว่าการที่เรารู้จักอะไรมากไป เขาจะว่าเรามาทำงานเพราะอะไร มันจะพลอยทำให้ไม่ได้งานนะค่ะ

ว้ายาวเลยนะนี่ เอาไว้ต่อคราวต่อไปดีกว่า เกี่ยวกับเรื่องสัมภาษณ์งาน กลวิธีที่น้องๆไม่ควรพลาดค่ะ แล้วเจอกันค่ะ

พี่กาหลง ผู้น่ารัก