กว่าจะได้ทำงาน…เป็นฉบับที่ 3 แล้วอย่างไม่น่าเชื่อ

เรื่องราวต่อไปนี้จะเป็นแนวทางให้กับน้องๆที่ถูกนัดสัมภาษณ์งานเป็นอย่างดีเลยเจ้าค่ะ

1. เย้ๆๆ…..มีโทรศัพท์มานัดสัมภาษณ์งานแล้ว หยุดก่อน…..อย่าดีใจจนเกินเหตุ อย่าลืมจดล่ะ วันที่เท่าไหร่ เวลาไหน จากบริษัทอะไร บริษัทอยู่ที่ไหน แล้วเราจะเดินทางไปได้ยังไงบ้าง สำคัญมากเจ้าค่ะ เพราะถ้าหากคุณรู้แค่ชื่อบริษัท หรือไม่ก็ลืมถามชื่อบริษัทไปเลยละก็ จบกันเจ้าค่ะ เพราะพี่เชื่อแน่ๆ น้องๆไม่ได้สมัครงานที่เดียวแน่นอน มันเป็นไปได้เสมอ ที่จะเกิดอาการสับสน เอที่ไหนโทรมาหว่า เอ! นัดวันไหนหว่า แล้วเอ!จะไปยังไงดีหว่า แล้วจะดีใจเก้อนะเจ้าค่ะ ถามให้ละเอียดไปเลยค่ะ แล้วจะได้ดีใจไม่เก้อ

2. เตรียมตัวสิค่ะ อะไรที่ต้องเตรียมบ้าง

• เตรียมเอกสารสิค่ะ เอกสารที่ต้องจัดเตรียมก็เหมือนกับตอนไปสมัครงานนั่นแหละค่ะ บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา รูปถ่าย ฯลฯ คงรู้ๆกันแล้วละมังค่ะว่ามีอะไรบ้าง สัก 2 ชุดนะค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ อ้อที่ลืมไม่ได้เลยอีกอย่าง ปากกาค่ะ ไม่ยืมเขา เขาหาว่าเราพร้อมเสียงานเอานาจาบอกให้
• เตรียมเสื้อผ้าค่ะ เอาที่เรียบร้อยๆ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเป็นชุดนักศึกษาค่ะ น้องเรียนจบแล้วนะค่ะ จะทำงานแล้วนะค่ะ ทิ้งคราบนักศึกษาแล้วค่ะ หาชุดซักชุดที่ดูดี เรียบร้อย ไม่ควรอย่างยิ่งอีกเช่นกันสำหรับกางเกงยีนส์และก็เสือยืด เสื้อควรจะเป็นเสื้อเชิ้ต ไม่ก็เสื้อสูท ไม่ควรใส่แขนสั้นนะค่ะ กระโปรงควรเป็นกระโปรงที่เรียบร้อยไม่ใช่ตามแฟชั่น สีควรจะเป็นสีดำ หรือไม่ก็สีเข้มนะค่ะ กระโปรงนักศึกษาทรงเอ พอใช้ได้ค่ะ รองเท้าควรเป็นรองเท้าหุ้มส้นนะค่ะ คัทชูสีดำสักครู่ก็ใช้ได้ค่ะ เอาที่เดินสบายไม่กัดเท้านะค่ะ เพราะน้องอาจต้องเดินอีกเยอะเลย
• เสร็จพร้อมแล้ว ก็มาที่ตัวน้องล่ะ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมตัว ที่ว่านี้คือ ความรู้ที่มีเอามาอ่านเอามาศึกษาลองทำดู หัดพิมพ์คอม EXCEL WORD ใช้อย่างไรลืมไปบ้างหรือยัง บทสนทนาภาษาอังกฤษ ลองหัดพูดดูสิ อาจได้ใช้ อะไรที่เราทำได้ดีที่คิดว่าน่าจะเป็นความสามารถพิเศษที่เกี่ยวข้องกับงานนะ ลองฝึกดูซิเอาให้คล่องๆ อืม มีกระจกสักบานไหมค่ะ ลองหัดนั่ง หัดพูด น้องจำตอนที่ PRESENT งานหน้าชั้นได้ไหมค่ะ เอาอย่างงั้นนะค่ะ เอาให้น่าสนใจ เพราะบริษัทหลายๆที่เขาไม่ถามอะคะ เขาจะให้น้อง PRESENT ตัวเอง พร้อมแล้วหรือยัง มาลดความตื่นเต้นลงอีกนิดนะค่ะ ถ้าเราพร้อมเรามั่นใจไปเลยนะค่ะไม่ต้องตื่นเต้น
• มาถึงวันที่จะไปสัมภาษณ์งานแล้วสินะ นอนไม่ค่อยหลับล่ะซิ เอาน่าตื่นเช้าหน่อย บริษัทนี้เดินทางไม่ถึง ชั่วโมงหรอก แต่กรุงเทพเรารถมันติดนะค่ะ ออกไปก่อนสักชั่วโมงก็น่าจะดี นัดกี่โมงนะ 10.00 ใช่มั้ย ออกจากบ้านสัก 8.00 ไม่น่าเสียหายค่ะ อืมอาบน้ำ แล้วแต่งหน้าสักหน่อยนะค่ะ เอาที่ดูดีนะค่ะไม่ใช่โบ๊ะจนเหมือนลิเก เอาแบบที่ไม่จืดเกินไป จะเป็นคนทำงานแล้วนี่นา ฉีดโคโลญน์กลิ่นอ่อนสักหน่อย เอาพอให้มีกลิ่นนะค่ะ ไม่ใช่หั้ยฉุนไป ทาลิปสติกสีอ่อนหั้ยดูสมวัย ตรวจตาดูสิเอกสารพร้อมเรียบร้อยหรือยัง อืม ถ้าโอเคแล้ว ไหว้พระสักหน่อยค่ะ จะได้หายตื่นเต้น ไหว้คุณพ่อคุณแม่ แล้วก็ยิ้มให้ตัวเองหน้ากระจกสักนาที แล้วลงมาทานข้าวนะค่ะทานหั้ยเรียบร้อย ทำธุระส่วนตัวหั้ยเรียบร้อย แล้วก็ไปกันค่ะเดี๋ยวสาย
• รู้ไหมค่ะทำให้ออกมาก่อนเวลาตั้งเยอะ จะได้เลือกนั่งรถที่ไม่แน่นได้ไง จะได้ไม่มีกลิ่นเหงื่อ ถ้าเลือกได้นั่งรถแอร์ไปเลยนะค่ะ วันเดียวน่าไม่กี่ตังค์หรอก
• พอมาถึงบริษัทที่เขานัดเรานะเขามักจะนัดเราหลังเวลาทำงานประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ น้องเข้าไปรอได้เลยนะค่ะ ไปรอดีกว่าไปสาย ไปถึงน้องไม่ต้องท่องอะไรแล้วนะค่ะ พักค่ะหั้ยหายเหนื่อย เข้าห้องน้ำสักหน่อยนะค่ะ เติมลิป เติมแป้งสักหน่อยเอาให้ดูดีเข้าไว้ ไม่ต้องตื่นเต้นๆ มีหนังสือพิมพ์วางอยู่ใช่ไหมค่ะ อ่านค่ะอ่าน ลดความตื่นเต้นของเราเอง และเผื่อเขาจะถามเหตุการณ์บ้านเมืองใครจะไปรู้
• อืม น้องค่ะเชิญที่ห้องสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ หา…ถึงเวลาแล้วเหรอไม่ต้องตื่นเต้น เข้าไปเลยค่ะ เคาะประตูสักหน่อยหากเป็นห้องปิดที่ต้องเคาะประตู มารยาทต่างๆ พี่รู้ว่าน้องทำได้ดีค่ะ สวัสดีก่อนสิค่ะ ยกมือไหว้ให้งามที่สุดเท่าที่เคยทำมา อย่าพึ่งนั่งค่ะรอเขาเชิญสักนาที ถ้าไม่เชิญเลย ก็นั่งได้อ่ะค่ะ เขาจะยังไม่สนใจเราหรอกค่ะ เขาจะดูเอกสารการสมัครงานของเราก่อน สักพัก แต่พี่บอกน้องเลยนะค่ะ ตอนนั้นนะเขากำลังดูบุคลิกภาพของเราอยู่ น้องอย่าหลุกหลิกเชียวอย่าตื่นเต้นนั่งให้สบาย
• ให้แนะนำตัวแล้วสิ ลองที่บ้านมาแล้วนี่นา เอาเลยค่ะไม่ต้องกลัว เขาเริ่มถามแล้วสิ ตอบได้ไหมค่ะ ถ้าได้ตอบไปเลยเอาแต่เนื้อนะค่ะไม่ต้องบรรยายให้มันยาวมาก ถ้าไม่ได้หยุดคิดสักนิดแต่ห้ามนานถ้าไม่ได้จริงๆ ตอบไปเลยค่ะว่าไม่ทราบ ไม่ต้องไปพยายามตอบสิ่งที่ไม่รู้นะค่ะ
• ทดสอบภาคปฏิบัติแล้วล่ะสิ อืม ถ้าโชคดีตรงกับที่เราหัดมาล่ะก็ สบายๆ แต่ถ้าไม่ตรง ไม่ต้องตื่เต้นนะ เพราะมันจะไม่ต่างกันเยอะอาจจะต้องพลิกแพลบงบ้าง ใจเย็นๆ ทำไปเรื่อยๆ ถ้าน้องๆแม่นในวิชาที่เรียนมาน้องต้องทำได้อยู่แล้ว บริษัทเขาจะรู้แล้วด้วยว่าเราพึ่จบมาควรจะทำอะไรได้ในระดับไหน น้องๆอย่ากลัวเกินเหตุ
• เรียบร้อยแล้วสินะ ให้นั่งรออีกละซิ ช่วงนี้เป็นเวลาแห่งการทำใจแล้วค่ะ ถ้าน้องๆคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว จะได้งานหรือไม่ได้งาน เราก็ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าไม่ได้ขึ้นมาจริงๆ ก็คิดเข้าข้างตัวเองสักนิด บริษัทที่ยังมองเห็นความสามารถของเรายังมีอีกเยอะ ไม่ได้ที่นี่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่อื่นฉันต้องทำได้ดีกว่านี้แน่นอน อืมคิดไม่เข้าข้างตัวเองบ้างว่าเราอาจทำไม่ดีพอ คราวหน้าจะได้ฝึกฝนใหม่พี่เชื่อคนเก่งอย่างน้องต้องได้งานแน่ๆสักที่หนึ่ง
• ถึงเวลาแล้วสินะ ถ้าได้งานพี่ยินดีด้วยนะค่ะ แต่ถ้ามีคำว่า แล้วเราจะนัดสัมภาษณ์อีกครั้งนะค่ะ ให้น้องทำใจไว้ 50/50 และก็หางานใหม่ต่อได้เลย แต่น้อยนักที่จะได้นะค่ะ และก็จะมีบริษัทใหญ่บางที่เขาบอกน้องเลยว่า “ ขอขอบคุณที่คุณหั้ยโอกาสมาสัมภาษณ์งานกับเรา แต่คุณสมบัติของคุณยังไม่ต้องกับตำแหน่งที่ทางเราต้องการถ้าหากมีตำแหน่งที่เหมาะสมกับคุณสมบัติของคุณแล้วเราจะติดต่อไปนะค่ะ “ น้องอย่าพึ่งเสียใจไปนะค่ะ แสดงว่าน้องทำอะไรให้บริษัทเขาสนใจบ้างแล้วล่ะค่ะ และไม่แน่และก็ไม่นานน้องอาจจะได้ร่วมงานกับบริษัทนี้ค่ะ แต่ก็หางานต่อไปด้วยนะค่ะอย่ารอแต่ความหวัง

จบแล้วอะค่ะ “กว่าจะได้ทำงาน” แล้วมาพบตอนต่อไปเกี่ยวกับ การทำงานจริงกันบ้าง ในชื่อเรื่องที่ว่า “นี่นะหรือ…..คือ….งาน”

พี่กาหลง คนเดิม