เรื่องนี้ขออนุญาตจากคุณพรสรัญ รุ่งเจริญกิจกุล
จากหนังสือ Health and Cuisine
ชีวิตคนเรา ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะน้อยนิดเสมอ ความทุกข์กายทุกข์ใจมักจะมาจู่โจมเราตลอดเวลา แต่คนที่มีภูมิต้านทานสูงจะไม่รู้สึกทุกข์มาก แต่คนที่มีภูมิต้านทานต่ำจะรู้สึกทุกข์ทุรนทุรายเป็นพิเศษ เช่น หนาวไป ร้อนไป อิ่มเกินไป หิวเกินไป ปวดโน่น เมื่อยนี่ ในด้านจิตใจก็คอยมีเรื่องคิดให้เป็นทุกข์ได้ไม่รู้จักจบสิ้น จริงบ้าง คิดไปเองบ้าง ผิดหวัง สมหวัง สุขทุกข์วนเวียนอยู่ในรัก โลภ โกรธ หลง การมีชีวิตอยู่จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ขนาดมนุษย์เป็นสัตว์ที่ฉลาดที่สุดแล้ว ทำไมยังหาความสุขที่แท้จริงให้ตัวเองไม่ได้นะ... ก็เพราะเราไม่ได้อยู่ในโลกคนเดียว และเราไม่สามารถเนรมิตทุกสิ่งได้ดังใจ เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีความสุขตามอัตภาพ ถ้าเราพิจารณาต้นเหตุความทุกข์ต่างๆเราจะพบว่าพอเพียงแค่เราอดทนได้ สิ่งต่างๆที่เราเห็นว่าสาหัสสากรรจ์ก็จะบรรเทาลง สิ่งที่ยากก็กลับง่าย เรามักจะได้ยินผู้คนประกาศว่า "ทนไม่ไหวแล้วนะ ฉันไม่ทนแล้วนะ" ซึ่งมักจะตามมาด้วยเหตุการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าการต้องอดทนเสียอีก
คุณผู้อ่านคงเคยมีประสบการณ์ว่า "รู้อย่างนี้สู้ทนอีกนิดยังดีกว่า ในบางสถานการณ์ การอดทนเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะไม่ทำให้ปัญหาบานปลายไปสู่ความยุ่งยากยิ่งขึ้น ในบางจังหวะเวลาแค่รู้จักอดทนก็รอดแล้ว ในกรณีที่เราไม่มีทางเลือก แต่ร้องยอมับสภาพด้วยความจำเป็นบางอย่าง การอดทนให้ได้จะทำให้เราทุกข์น้อยกว่าการต่อต้าน เราจึงควรคำนึงถึงความอดทนในการแก้ปัญหาเสมอ คนที่รู้จักอดทนไม่ใช่คนที่อ่อนแอ การที่เราเลือกที่จะอดทนไม่ได้หมายถึงเราเป็นผู้แพ้ แต่เป็นกุศโลบายที่ดีที่สุด สำหรับเราต่างหาก
คุณสมบัติเรื่องความอดทนไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เป็นพลังความเข้มแข็งที่สามารถฝึกฝนได้ ยิ่งเรามีมากเพียงใด ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น เพราะเราสามารถควบคุมตัวเราไม่ให้เต้นไปตามสิ่งที่มากระทบนั่นเอง สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อความอดทนมีมากมาย เช่น การถนอมตัวเองมากจนเกินไป การกินยาก อยู่ยากมีเงื่อนไขในการดำรงชีวิตมาก ทำให้วันๆมีแต่เรื่องที่ทำให้เกิดความทุกข์ เมื่อไปอยู่ในที่ที่ไม่เคยชิน หรือการคำนึงถึงศักดิ์ศรีสถานภาพมากเกินไปก็ทำให้ไม่ยอมอดทน คนพวกนี้มักถามผู้อื่นว่าทำไมฉันจะต้องทนด้วย โดยเลือกที่จะชวนทะเลาะมากกว่า
บางคนอดทนแล้วเศร้า เพราะคิดว่าต้วเองน่าสงสารที่ต้องเป็นฝ่ายยอมอดทน จริงๆแล้วไม่ใช่ เราอดทนเพื่อสิ่งที่ดีกว่าต่างหากเหมือนอดเปรี้ยวไว้กินหวาน การอดทนทำให้เราเป็นคนน่ารักในสายตาคนรอบข้าง การยอมๆเขาบ้างก็เป็นการทำให้คนอื่นมีความสุข อย่าไปคิดว่าเสียเปรียบ คิดเสียว่าดีกว่าเป็นศรัตรูกันแล้วมองหน้ากันไม่ติด
การอดทนทำให้เราเป็นคนที่มีบุคลิกดี น่านับถือ และมีโอกาสประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากกว่า เพราะสามารถทนต่อความกดดันทุกรูปแบบ ไม่มองอุปสรรคเป็นความทุกข์ ชีวิตจะมีปัญหาน้อยลง
ฉะนั้น ขอให้พวกเราสร้างภูมิต้านทานให้ชีวิตด้วยการฝึกให้รู้จักความอดทนนะคะ
|