ตอนที่ 3
การติดต่อมาของพัทธสิน ทำให้รสรินมีรายได้ประจำต่อเดือนเพิ่มมากขึ้น แต่เธอก็ยังยืนหยัดที่จะอาศัยอยู่หอพักที่เดิม เพราะต้องการเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เวลาที่เจอกับพัทธสิน ก็คือนัดเจอกันวันหยุด และพากันไปโรงแรมใกล้ ๆ ที่พัก การติดต่อระหว่างรสรินและพัทธสิน เป็นเหมือนเธอเจอลูกค้าคนหนึ่งปกติธรรมดา แต่ความรู้สึกของเธอจะมีให้พัทธสินมากกว่าคนอื่น ๆ แน่นอนเพราะยังไม่มีใครคนไหนดีเท่าให้เปรียบเทียบ นั่นคือความรู้สึกของรสรินในตอนนั้น เค้าให้เงินมากเธอก็ต้องให้ความรู้สึกมากเป็นธรรมดา แต่ถามว่ารักมั้ย คำตอบที่ได้สำหรับเธอก็คือไม่รู้เหมือนกัน รักหรือไม่เธอไม่สมควรจะหาคำตอบกับมัน เค้ารักเธอบ้างหรือไม่ยิ่งไม่ควรถามมันออกไป เพราะเค้าคือผู้ชายต้องห้ามสำหรับเธอเช่นกัน
ดังนั้นระหว่างที่คบหากับพัทธสิน เธอก็ยังคงทำงานที่ร้านนั้นต่อไป และเลือกที่จะเจอเค้าในวันหยุด หนึ่งไม่ต้องโดนหักเงินเดือน สองได้เงินเพิ่มขึ้น สามมีลูกค้าประจำไม่ต้องเหนื่อยยืนยิ้มให้เมื่อยให้ใครต้องมาเลือกรายวัน นอกเหนือจากนั้น กลางวันระหว่างรอไปทำงานตอนเย็นของทุกวัน เธอก็เลยหาลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นอีก 1 คน โดยการแนะนำมาจากเพื่อน ๆ ในร้านเช่นกัน ชิน จึงเป็นลูกค้าอีกคนที่ใช้เวลาพบเค้าระหว่างสัปดาห์ในตอนกลางวัน ชินเป็นคนมาเลเซียแต่มาทำธุรกิจในประเทศไทย และมีครอบครัวแล้วแต่ครอบครัวอยู่อเมริกา อายุมากกว่าพ่อเธอด้วยซ้ำ เธอเลือกที่จะหาเงินแบบนี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจหรือคิดจะแคร์กับสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว การพบกันของเธอและชิน ก็คือจะเจอกันเฉพาะตอนกลางวัน วันไหนที่เขาต้องการเจอเธอ เค้าก็จะsms มานัดวันเวลาและสถานที่
ช่วงแรกที่ทำงานที่ร้าน 3-4 เดือนแรก รสรินไม่ค่อยได้งานจากที่ร้านซักเท่าไหร่ เวลาที่ได้งานเธอจึงมักจะให้ความใส่ใจกับมันอย่างเต็มที่ เพื่อที่เธอจะได้มีลูกค้าประจำที่ร้าน มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการที่จำนวนดริ้งที่ได้เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนลูกค้าที่มี นั่นหมายถึงเงินที่เธอจะได้ก็จะเพิ่มขึ้นคามความสามารถในการจิกแขกได้ รายได้ของเธอส่วนใหญ่ช่วงแรกจึงมากจากพัทธสิน และลูกค้าขาประจำกลางวันคนนี้
ผ่านเข้าเดือนที่ 4 ย่างเข้าเดือนที่ 5 รสรินตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูกเพื่อเพิ่มโหวงเฮ้งให้กับตัวเอง และนั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอเช่นกัน มีคนโบราณบอกว่าเมื่อโหวงเฮ้งคนเรามันเปลี่ยน ชีวิตก็จะเปลี่ยน งานเธอดีขึ้นทันตาเห็น มีลูกค้าเข้ามาติดมากขึ้น รายได้มากขึ้น เงินทำให้รสรินลืมตัว เธอใช้เงินที่ได้ในเดือนที่ 5 และ 6 อย่างคล่องมือไม่ติดขัด มีเงินส่งให้แม่ใช้หนี้ และใช้จ่ายอย่างสบายได้ต้องชักหน้าไม่ถึงหลังเหมือนที่ผ่านมา แต่มันก็พ่วงมาพร้อมกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่เธอไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อน ตลอดระยะเวลา 10กว่า ปีที่รู้จักผู้ชาย
มิสเตอร์โจนาธานเป็นผู้ชายที่ดูดีมากสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ รูปร่างสันทัดสมชาย ผิวขาวหน้าตาอ่อนกว่าอายุจริงพอสมควรเนื่องจากไม่ได้ทำงานหนักและเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่กำลังถูกจับตาม ความเป็นลูกครึ่งสัญชาติไทยมาเลเซียจึงได้ผิวขาวจากมารดาซึ่งเป็นคนไทย แต่หน้าตาคมสันค่อนไปทางพ่อที่เป็นคนมาเลเซีย แต่ชายคนนี้คือคนต้องห้ามเนื่องจากเป็นหนุ่มเจ้าสำราญพอสมควรมีเงินฐานะ และการศึกษาที่ดี พื้นฐานครอบครัวมีฐานะ เป็นนักธุรกิจทั้งครอบครัว เงินที่เขาใช้กินใช้เที่ยวจึงค่อนข้างมาก ถึงแม้สำหรับเค้ามันคือเศษเงินแต่มันก็ทำให้ใครบางคนลืมตาอ้าปากได้ โจ ทำงานและบริหารบริษัท ในเครืออยู่ 3 ประเทศได้แก่ไทยมาเลเซีย และอินโดนีเซีย โจ ค่อนข้างจะเป็นคนรักครอบครัว รักลูกสาว ดูแลพ่อแม่ ทำงานหยุดเสาร์อาทิตย์ และมีเพื่อนฝูงค่อนข้างเยอะ งานของเค้าจะต้องมีการรับรองลูกค้าชาวต่างชาติเสมอ นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่เค้าต้องใช้ชีวิตกลายเป็นคนกินดื่ม และเที่ยวผู้หญิง ความเจ้าชู้จึงสมญานามที่เขาได้รับโดยไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธมัน
โจ พบกับรสรินที่ร้านและเป็นลูกค้าประจำของรสริน คำว่าลูกค้าประจำก็คือมีการโทรจองผู้หญิงเพื่อที่จะไม่ให้ผู้หญิงต้องไปเดินเลือกลูกค้า ให้รอเค้า และจ่ายแพงกว่าไม่จองไม่กี่บาทสำหรับเค้า แต่เท่าที่ผ่านมาเค้าไม่เคยจองใครเลย เค้าใช้ผู้หญิงส่วนใหญ่ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง และ ทุกครั้งก็คือตีออกไปค้างคืนด้วยที่โรงแรม โจเป็นผู้ชายที่สุภาพมากสำหรับรสรินด้วยความเป็นผู้หญิงที่ทำงานแบบนี้เธอจึงเจอผู้ชายที่ให้เกียรติผู้หญิงอาชีพอย่างเธอน้อยมาก แต่การเทคแคร์และความสุภาพของเค้าทำให้รสรินติดบ่วงเค้าได้ไม่ยาก และนั่นทำให้รสริน ปฎิบัติกับโจต่างจากคำว่าลูกค้า ทั้งสองแลกเบอร์มือถือกันหลังจากพบกันครั้งแรก โจให้ความสำคัญกับผู้หญิงที่เค้าเพิ่งมีสัมพันธ์ด้วยเสมอ และความสุภาพที่มอบให้ ทำให้รสรินมีความสุขเหมือนเป็นเจ้าหญิงคนสำคัญสำหรับเค้า รสรินส่งข้อความให้โจทุกวันแม้จะไม่ได้เจอกันทุกวัน แต่เขาและเธอก็ติดต่อกันด้วย SmS เสมอ บางวัน 3 เวลาด้วยซ้ำ มันเป็นสิ่งที่รสรินไม่รู้เลยว่า นั่นทำให้โจถอยห่างออกจากเธอโดยไม่รู้ตัว เพราะมันทำลายความเป็นส่วนตัวระหว่างเธอและเขา มันเป็นการกระทำที่เลยเส้นของผู้หญิงอย่างเธอ โจเริ่มลดการตอบ SMS กับรสริน และเริ่มทำตัวออกห่าง ทำให้รสรินกระวนกระวายใจ ทำตัวเป็นเจ้าเค้าเจ้าของ และนั่นยิ่งทำให้เธอและเขาเลิกติดต่อกันในที่สุด
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างโจและรสรินกลายเป็นคนที่ไม่ยอมพูดคุย และที่แย่ไปกว่านั้น รสรินเลือกที่จะทำงานมากกว่าโดยไปกับเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของโจ ทั้งที่ในหัวใจของรสรินนั้นเจ็บปวดที่ต้องเลือกอย่างนั้น แต่หากเธอไม่ทำ รายได้ที่เธอเคยได้ประจำจากโจก็จะหายไป ใช่เงิน รสรินเลือกเงิน โดยการไปกับเพื่อนของโจ และมองข้ามความสัมพันธ์ที่ผ่านมา เพียงการตัดสินใจครั้งนั้นของรสริน ทำให้เขาและเธอไม่สามารถต่อกันติดอีกต่อไป ภาพที่โจมองรสรินก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่สามารถใช้เงินซื้อได้ ส่วนภาพของโจสำหรับรสรินก็คือผู้ชายเพลย์บอยคนหนึ่งที่สามารถใช้เงินเพื่อแลกความสุขจากร่างกายของผู้หญิง และผู้ชายประเภทเดียวกับโจมีให้เห็นทุกหัวมุมถนนของเมืองใหญ่นี้ และนั่นคือภาพของผู้ชายที่รสรินมองเห็นชัดเจนขึ้นทุกวัน และมันสอนให้เธอรู้จักคำว่า เจ็บปวด สอนให้รู้จักความผิดหวัง เรียนรู้ที่จะอยู่โดยไม่ต้องมีผู้ชาย หากต้องมีใครในความรู้สึกสู้อยู่คนเดียว หาดีไม่ได้ก็ไม่ต้องมีใครซะดีกว่าในหัวใจ คนรักเธอด้วยหัวใจจริง ๆ คงไม่เคยมีจริงสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ ปากท้องเธอและคนรอบตัวยังต้องใช้เงินไม่ใช่หัวใจและความรู้สึก
เมื่อค้นพบอย่างนั้น ชีวิตเธอและโจจึงกลายเป็นเส้นขนานกันนับตั้งแต่นั้น แต่ในห้วงความรู้สึกของระยะเวลาหนึ่ง โจอยู่ในความรู้สึกของรสรินนานพอสมควรทีเดียว จนตัวเธอยังแอบคิดเสมอว่า ความรู้สึกบางครั้งที่มีกับโจมันช่างแตกต่างจากผู้ชายทุกคนที่ผ่านมาตลอด 10 กว่าปีไม่ว่าเธอจะมีใครแทรกเข้ามาตลอด คนที่แว้บเข้ามาในความรู้สึกของรสรินเสมอก็คือโจ และมันยากเหลือเกินที่จะลบคนคนนี้ออกไปจากความรู้สึก
โจยังคงเป็นลูกค้าประจำที่ร้าน แตกต่างออกไปจากเดิมคือเค้าไม่ได้เรียกเธออีกต่อไป โจเลือกคนอื่น ๆ และไม่เคยมองเห็นเงาของรสรินในสายตาเค้าอีกต่อไป ที่น่าแปลกไปกว่าเดิมก็คือ หลังเกิดเรื่องโจไม่เคยเทคผู้หญิงคนไหนออกไป อย่างน้อยตรงนี้รสรินก็ยังมีน้ำหล่อเลี้ยงชุ่มชื้นในหัวใจเธอบ้างเหมือนกับคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่คิดแล้วทำให้หัวใจเธอชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง แต่ในใจของรสรินก็เจ็บปวดเสมอที่เห็นเค้าอยู่กับคนอื่นแต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านั้น นอกเสียจากก้มหน้าก้มตาทำงานของเธอไป ส่วนโจนั้น รสรินบอกตัวเองยากเหลือเกินที่จะหยั่งความรู้สึกผู้ชายคนนี้ ความสัมพันธ์ระยะสั้นที่ผ่านมาคงไม่กระทบความรู้สึกเค้าซักนิด
ข้อดีที่รสรินได้จากโจบ้างก็คือทำให้เธอเพิ่มความตั้งใจที่จะเปลี่ยนชีวิตจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด รสรินลงคอร์ดเรียนภาษาทันทีตามที่ตั้งใจ และวางแผนให้กับตัวเอง เพื่ออนาคตที่เธอเคยตั้งไว้ตั้งแต่แรก ลึกลึกในใจของรสรินคือ ซักวันหากเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำอาชีพนี้แล้ว เธอคงจะมีความภาคภูมิใจที่จะเข้าไปขอโทษโจ และบอกลาเค้า บอกความรู้สึกที่ตัวเองเก็บไว้กับตัวเองมานาน และอย่างมั่นคง เธอหวังจะได้กลับมาเป็นมิตรกับโจอีกครั้ง และนั่นคือความหวังลึก ๆในใจเธอ
การทำงานของเธอทุก ๆวัน มีผู้ชายเข้ามามากมายมีทั้งดีจนใจหาย มีทั้งเลวจนน่าตบคว่ำให้กลับบ้านเก่า ทุกอย่างเธอต้องทน หลังจากเกิดเรื่องของโจและเธอรสรินก็ไม่เคยสนใจใครมากเป็นพิเศษมากกว่าคำว่าลูกค้า อีกเลย แม้แต่พัทธสินที่มีภาษีดีกว่าคนอื่นที่เธอยังคบนานกว่า ความเสมอต้นเสมอปลายของพัทธสินทำให้เธอมองอย่างน้อยผู้ชายคนนี้ก็ดีกับเธอบ้าง ก็ยังมีข้อดีบ้างในตัวผู้ชายที่เธอคบอยู่คนนี้ ถึงแม้บางส่วนของพัทธสินที่รสรินเห็นก็คือผู้ชายที่ใช้เงินซื้อความสุขจากเธอก็ตาม แต่เค้าก็ดีกว่าผู้ชายบางคนมากนัก
ระยะเวลาที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้านั้น สามารถรักษาความรู้สึกเจ็บปวดของรสรินได้ อีกทั้งมันยังสอนให้เธอรู้ว่าการวิ่งไล่ตาม และบอกความรู้สึกของตัวเองกับผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างโจนั้น ยิ่งทำให้ผู้ชายวิ่งหนีเธอ การเรียนรู้ตรงนี้กว่ารสรินจะมองเห็นมัน ก็นานพอสมควร และเจ็บอยู่นานพอสมควร บางครั้งบางทีเธอยังตอบตัวเองไม่ได้อยู่ดีว่า ระหว่างความรู้สึกที่เธอมีให้โจ พัทธสิน หรือว่า ภาสกร คนไหนกันที่เรียกว่าความรัก
(โปรดติดตามตอนต่อไป....)
|