หน้าแรก เขียนใบสมัครงาน ลงโฆษณางาน ค้นหาใบสมัครงาน คู่มือการใช้งาน Menu

สนใจลงโฆษณา โทร. 02-275-1900, 02-612-4900, 038-395000

space
   ค้นบ่อย : หางานบัญชี, หางานธุรการ, หางานจัดซื้อ, หางานผู้จัดการ, หางานขับรถ, หางานบุคคล, หางานคลังสินค้า, หางานครู, หางานวิศวกร, หางานเขียนแบบ, หางานคีย์ข้อมูล, หางานการตลาด, หางานโรงแรม, หางานสิ่งแวดล้อม, หางานคอมพิวเตอร์, หางาน Programmer, หางานประชาสัมพันธ์, หางานช่าง, หางานสถาปนิก
เรื่อง คำแนะนำน้องใหม่ขององค์การ
เขียนโดย ชัชวาลย์

Rated: vote
by 1 users

คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?

 




ในฐานะที่ทำงานด้านบริหารงานบุคคล ที่ต้องรับผิดชอบการ Recruit บุคลากรให้กับองค์การด้วย ผมเริ่มกังวลแล้วว่า ถึงฤดูกาลที่น้องใหม่จำนวนมหาศาลนับได้ปีละหลายแสนครับ จะจบการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยที่มีหลากหลายชั้นและหลากหลายระดับเหลือเกินในแวดวงการศึกษาของไทย คนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในองค์การ ต่าง ๆ ที่มีตำแหน่งงานอย่างจำกัด และผู้ประกอบการหรือนายจ้างเลือกได้ในปัจจุบันที่เรียกกันว่า "ตลาดเป็นของนายจ้าง" เช่นในปัจจุบันนี้ น้อง ๆ ทั้งหลายคงต้องเตรียมตัวให้หนักมากขึ้นหลายเท่า อันนี้ ก็อาจจะเว้นไว้แต่น้องใหม่ที่จบในสาขาที่เป็นความต้องการของตลาด หรือจบจากสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ เช่น จุฬา ธรรมศาสตร์ ซึ่งมักจะได้รับการยอมรับในตลาดแรงงานเป็นธรรมชาติของสังคมที่ไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว

ผมอยากจะบอกน้อง ๆ ว่า ในโลกของการทำงานจริงจริงนั้น มันมีอะไรที่มากไปกว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมากครับ ยกตัวอย่างที่ผมเคยเขียนไปเรื่องโทรศัพท์ในที่ทำงานนั้น เป็นตัวอย่างหนึ่งที่น้อง ๆ อาจจะเห็นว่า แหม! มันช่างต่างไปจากในชั้นเรียน หรือชีวิตนักศึกษามากเลยเนอะ ซึ่งว่าไปแล้ว หากเปรียบเทียบกันแล้ว อันหนึ่งก็คือบรรทัดฐานของชีวิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย อีกอันหนึ่งคือวัฒนธรรมการใช้ชีวิตหรือการทำงานในองค์การที่มันเป็นเรื่องธรรมดาที่แตกต่างกันอยู่แล้ว

ชีวิตเมื่อจบจากรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว มันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นชีวิตจริงของคนเรา เพราะทุกคนไม่ว่าใครก็ต้องทำงานครับ งานคือสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของคนเรา นั่นคือสิ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่จริง

ผมก็เลยขอให้คำแนะนำกับน้อง ๆ ซึ่งรวมถึงนิสิต นักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบ เพื่อเป็นแนวทางเตรียมตัวหางานให้โดนใจนายจ้างครับ

เรื่องแรก น้อง ๆ คงต้องยอมรับว่า น้องมีข้อด้อยนะครับ ด้อยในเรื่องประสบการณ์การทำงาน ซึ่งนายจ้างว่าไปแล้วร้อยทั้งร้อยก็ต้องการคนมีประสบการณ์ทั้งนั้นครับ ข้อนี้ น้อง ๆ หลายคนบอกว่า หากไม่จ้างผมผมจะมีประสบการณ์ได้อย่างไรล่ะ ผมเองคิดว่า นายจ้างก็ไม่ได้หมายถึงแบบนี้เสียทั้งหมด การมีประสบการณ์การทำงานนี้ อาจจะมาในรูปของการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ การฝึกอบรม หรือการทำงาน part time ระหว่างเรียน ประสบการณ์การทำงานนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรมากนัก นายจ้างต้องการเรื่องความเข้าใจวัฒนธรรมการทำงานของคนทำงาน รวมถึงความสามารถในเชิงการเรียนรู้ปรับตัวในแวดวงการทำงานมากกว่าครับ

เพราะมันเป็นเรื่องน่าปวดหัวมากเลยที่นายจ้างจะต้องมารับมือกับพนักงานใหม่ที่ไม่ประสาเลยกับการทำงาน เสียทั้งค่าใช้จ่ายและเวลาจิปาถะ และมันก็เป็นจริงด้านหลักสำหรับองค์การที่ระบบการสอนงานยังอ่อนแอ

ผมเองขอแนะนำให้น้อง ๆ สนใจเรื่องการฝึกประสบการณ์วิชาชีพหรือการฝึกงาน เพราะมันเป็นใบเบิกทางช่องทางเดียวที่น้อง ๆ มีอยู่พอที่จะไปแข่งขันหรือสร้างความได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น ผมเองได้ยินตอนที่ไปดูงานที่เมืองจีนว่า นักศึกษาจบใหม่จำนวนไม่น้อย ยอมที่จะทำงานตามโปรแกรมฝึกงานแบบที่ได้รับค่าตอบแทนน้อยมาก หรือไม่ได้รับค่าตอบแทนเลยกับองค์การต่าง ๆ เพียงเพื่อแลกกับประสบการณ์ในการทำงานจริง เพราะนายจ้างเขาเลือกได้นี่ครับ จะไปว่าเขาเลือกปฏิบัติหรือไม่ให้โอกาสก็คงได้แต่พูด

เรื่องต่อมา ก็ต่อเนื่องจากเรื่องแรก คือการแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับคนอื่น และการทำงานเป็นทีม ซึ่งน้อง ๆ มักจะได้มาจากการร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ของสโมสร หรือชมรมต่างๆ ในขณะที่เรียน แต่อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับชมรมที่ทำงานด้านการเมืองมากครับ เพราะองค์การภาคเอกชนไม่ใช่หน่วยงานภาครัฐที่จะยินดีครับเด็กหัวหมอเข้ามาทำงาน หรือมาเป็นตัวนำประท้วงเรียกร้องเรื่องนั้นเรื่องนี้ในองค์การ การเข้าร่วมกิจกรรมนั้น แสดงทางหนึ่งให้เห็นว่า น้อง ๆ มีความสามารถในการทำงานร่วมกับคนอื่น หรือหากเป็นแกนนำในการทำกิจกรรม ก็แสดงถึงภาวะผู้นำในตัวของน้อง ๆ เอง

นอกจากนี้ ประสบการณ์ของการทำกิจกรรมกับชมรมที่ว่ามานั้น ยังสะท้อนถึงโอกาสที่น้อง ๆ จะนำเอาประสบการณ์มาใช้กับการทำงานจริงได้มากกว่าคนที่ไม่มี

การเข้าร่วมกิจกรรมบางเรื่อง ยังแสดงถึงน้ำจิตน้ำใจ จิตสำนึกสาธารณะ การรู้แพ้ รู้ชนะ เช่น การเข้าค่ายอาสา การทำกิจกรรมเพื่อประโยชน์ทางสังคม เป็นต้น ผมไม่เชื่อว่ามีองค์การใดนิยมชมชอบกับพนักงานใหม่ที่เพิ่งจบจากรั้วมหาวิทยาลัยแล้วเป็นพวก "นักช๊อป" หรือ "นักแชท" เพราะคนกลุ่มนี้ มีแนวโน้มอย่างมากที่จะทำงานแบบไม่มีประสิทธิภาพเท่าใดนัก

ข้อต่อมาก็คือ น้อง ๆ ต้องพยายามหาจุดแข็งของตัวเองให้พบ โดยเฉพาะจุดแข็งที่ตรงกับความต้องการของตำแหน่งงาน เช่น ตำแหน่ง วิศวกร บัญชี การบริหาร สิ่งที่องค์กรต้องการคือ ความแม่นยำ ความละเอียดรอบคอบ เป็นต้น ซึ่งว่าไปนั้น จุดแข็งพวกนี้ก็คือตัวตนจริงจริงของเรา แต่มันก็ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวที่เบ็ดเสร็จหรอกครับ เพราะบางทีชื่อเสียงของสถาบัน คะแนนการศึกษา หรืออะไรต่าง ๆ ก็ช่วยบอกถึงจุดแข็งของน้อง ๆ ได้เช่นกัน

ข้อต่อมาก็คือ พยายามสร้างความแตกต่างจากคนอื่น แต่ไม่ใช่สร้างความแตกต่างที่ต้องหรูหรา หรือทำอะไรโดเด่นในเรื่องที่ไม่ควร เช่น ใส่นาฬิกาเรือนละหลายหมื่นบาทมาสมัครงานในตำแหน่งเงินเดือน 10,000 บาท เพื่อแสดงฐานะครอบครัว มันก็ไม่ควร เพราะมันรังแต่จะสร้างทัศนคติที่ค่อนไปในทางลบกับเหล่า Recruiter เสียมากกว่า ต้องเข้าใจนะครับว่าแต่ละองค์กรย่อมได้รับใบสมัครจากผู้สมัครงานมากมาย รอให้คัดเลือกได้อย่างที่ใจต้องการด้วยซ้ำไป ประเด็นของการสร้างความแตกต่างนี้อยู่ที่ การจัดทัศนคติของน้อง ๆ ให้เหมาะสมโดยเฉพาะสำหรับการสัมภาษณ์ โดยน้อง ๆ จะต้องเน้นการสร้างความประทับใจให้กับฝ่ายบุคคลที่มาสัมภาษณ์ด้วยการกระตือรือร้น มีความคิดเชิงบวก คล่องแคล่ว อดทน ซึ่งเชื่อเถอะครับว่า เรื่องพวกนี้มองไม่ยากเลย

ครางนี้ หากน้อง ๆ มีโอกาสได้รับการคัดเลือกในเบื้องต้นจากองค์การเพื่อเข้ากระบวนการของการสัมภาษณ์ สิ่งที่น้อง ๆ จะต้องทำเลยก็คือ การเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรที่เราจะไปสัมภาษณ์ด้วย ซึ่งในอินเตอร์เน็ตก็มักจะมีข้อมูล หรือาจจะไปขอเอกสารประชาสัมพันธ์ขององค์การมาศึกษาก่อน รวมถึงดูว่า ลักษณะของงานที่เราสมัครไปเป็นอย่างไร สินค้าและหรือบริการที่องค์การมีคืออะไร

การมีข้อมูลเหล่านี้ ยิ่งมากเท่าใด ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับน้อง ๆ มากขึ้นเท่านั้น และมันก็จะเป็นสิ่งที่แสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นถึงความตั้งใจจริง และเสริมให้ดูมีความพร้อมมากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ

คุณแจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ เคยบอกไว้ว่า ความเก่ง และความดีของแต่ละคน ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าเราจะมีโอกาสได้งานสูงกว่าผู้สมัครคนอื่น แต่การเตรียมพร้อม นับตั้งแต่การเขียนใบสมัครและการสัมภาษณ์ต่างหากที่จะทำให้เรามีความโดดเด่นและแตกต่างจนสร้างความประทับใจให้กับองค์กรที่เราสนใจจะทำงานด้วยได้

ขอเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ทุกคนประสบความสำเร็จกับการเริ่มต้นชีวิตการทำงานครับ




ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้ ...

 

user_icon

Knowledge Center
knowledge center
knowledge

star

10 วิธีเพิ่มเวลาว่างให้กับชีวิต
 
เรื่องน่ารู้ตามหมวดหมู่
• การแพทย์
• ความรู้ทั่วไป
• เรื่องของผู้หญิง
• กีฬา
• ข่าวและสื่อ

และอื่น ๆ อีกมาก

  ค้นหาเรื่องที่คุณสนใจ
ระบุ keyword
 
True vision

TV Icon

TV Interview

หลากเรื่องราวทางธุรกิจ แง่มุมของผู้บริหาร จากบริษัทชั้นนำต่างๆ

dot
HR Corner
สัมภาษณ์คัดเลือกผู้สมัครงานอย่างไร? ให้ตรงสเป็ค
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
 
The Seeds of Innovation นวัตกรรมใหม่แห่งการพัฒนาบุคลากร
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
 
การสร้างความแตกต่าง ให้เหนือคู่แข่ง
คุณมกร พฤฒิโฆสิต
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
dot

https://www.jobpub.com/new_images/playall_b.gif

 

หางานบ่อย : งานประกวด ที่ปรึกษา ประกัน ชั่วคราว55 หางานพาททามในกทม บัขชี dna lotus Change Manager ช่วยชาวต่างชาติ ธุการ-ประสานงาน สัสดี datapro ราชการม.6 พัทยา ช่างไฟฟ้า สวนหลวง - บางกะปิ QC, สมัครงาน ม.3 กทม cQ งาน staff event สมัครงานม.3 สมัครงานฝ่ายผลิตที่ลาดกระบัง สมัครงานสมุดสาคร การประกันภัย 28 กรกฎาคม 2555 พยาบาลสินไหม ช่างตัดผมชาย ชั่งปลิ้นภาพ โรงงานมิสทีน พนักงานขายร้าน บัญชีคลังสินค้าสงขลา เด็กเสิรฟ sun merry ศาสนาพุทธ สุขุมวิท 39 หางาน จบ ม.6 สมุทรสาคร ยครƒร™ยปยฐรร‡ร‘ร‚ ไม่จำกัดวุฒิในกทม. งานด้านการบัญชี ชลบุรี สมัคร ม.6 schoolครูศิลปะ ava ่j ช่งมิลลิ่ง ฟิตเนส สปา คลีนิค สมัครวุฒ ปวช กทม งานวุฒิม.3 สมุทรปราการบางพลี โรงแรม หัวหิน manesmens รƒยฏร‚ยฟร‚ยฝรƒยร‚ยน แบริ่ง ลาซาล สำโรง ประตูไม้ ประสานงานภาษาจีน