อันว่าความสำเร็จในการทำงานนั้น ใครใครก็อยากให้มันเกิดขึ้นกับตัวเองเป็นธรรมดา เว้นเสียแต่คุณเกิดเป็นคนที่ไม่อยากได้มันมา เพราะเหตุผลใดก็ตามแต่  เช่นมันยากนะ ต้องฝ่าฟันสารพัด ต้องแข่งขัน ก็เลยขอทำงานไปเรื่อย ๆ หากกรมดีที่เคยก่อไว้มีจริง ก็คงจะหนุนส่งให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเอง

ท่านใดคิดแบบนี้บ้างไหมครับ  หากท่านคิด...อาจจะต้องใช้ปรอทวัดอุณหภูมิหัวใจของท่านล่ะครับ

แต่หากต้องการความล้มเหลวจริง ๆ ล่ะก็  ผมมีเรื่อง 10 อยากที่ขอแนะนำให้ท่านทำ  แล้วรับรองได้เลยว่า มันจะทำให้คุณได้ล้มเหลวชัวร์ ชัวร์.....ไม่เชื่อลองทำดูครับ

(1)     ไม่ต้องทำอะไรให้เสร็จ ค้างค้างคาคาไว้แบบนั้นล่ะ  โดยเฉพาะเมื่อมีอะไรที่ต้องทำหลายอย่างไปพร้อม ๆ กันหรือต้องลำดับความสำคัญของงาน อยากทำอะไรก่อนหลังก็ทำไป พอนึกเบื่อก็หยุดก็เท่านั้น  ไม่ต้องไปโฟกัสอะไรกับงานหรอก  และไม่ต้องไปสนใจด้วยว่าเป้าหมายของงานมันคืออะไร

(2)     ล้มเลิกเมื่อเจองานยาก  ก็เป็นธรรมดาล่ะครับ  ทำไปทำไมเจ้างานที่ยาก ๆ น่ะ แม้มันจะมีคุณค่าแต่ขอทำงานง่าย ๆ จะดีกว่านะ เพราะมันจะทำให้เราเจออุปสรรคมากมาย ทั้งที่อุปสรรคจะช่วยให้เราได้เรียนรู้ แต่ก็ช่างมันเถอะ เดี๋ยวองค์การเขาก็หาคนเก่งมาทำแทนเองในที่สุด

(3)     ไปไล่ตามความฝันของคนอื่นดีกว่า เพราะความฝันของคนอื่นนั้น มันช่างไปสิ่งที่คุณอยากจะเป็นเหลือเกิน จะต้องมาตามความฝันของตัวเองทำไมล่ะ

(4)     ยืนกราน เอาความคิดของตัวเองเป็นหลัก  จะไปสนใจทำไมว่าผลที่ต้องการจาดงานไม่คืออะไร โดยเฉพาะเมื่อมันไม่ตรงตามที่คุณต้องการให้มันเป็น  ดันทุรังไปเลยดีกว่า เพราะคุณไม่ใช่พวกขี้แพ้สักหน่อย  จะไปเปลี่ยนแปลงอะไรทำไมล่ะ

(5)     ไม่ต้องขอความช่วยเหลือใคร  ต้องทำงานเองมันถึงจะถูก  ไว้ใจลูกน้องไม่ได้หรอก หรือสอนไปก็ไม่เคยที่จะจำ  ให้ลูกน้องรับผิดชอบกับผลงานไปเถอะ   ทำคนเดียวเดี๋ยวในที่สุดมันก็เสร็จ

(6)     ทับถมคนอื่น ก็คนอื่นมันไม่เก่ง ไม่ฉลาดเหมือนฉันสักนิดเดียว ยิ่งกับคู่แข่งด้วยแล้ว  ยิ่งไม่มีอะไรให้กังวลเพราะคู่แข่งยังห่างชั้นกับเราเสมอ  กับเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องก็เช่นกัน ถากถางซะบ้างจะเป็นไรไป  ยังงัยคนอื่นก็ไม่สำคัญเท่ากับเราอยู่ดี

(7)     ต้อง “ได้” เท่านั้น  เพราะการไม่ได้นี่ทำให้เราไม่มีฝีมือ  ไม่อยากที่จะไปเรียนรู้กับความผิดพลาด เดี๋ยวคนหัวเราะเยาะเอา

(8)     ไม่ต้องมีวินัย  ทำอะไรก็ได้ตามใจคือไทยแท้ ทำไมต้องมีระบบระเบียบให้มันวุ่นวายล่ะครับ เอกสารสำคัญจะไว้ที่ไหนก็ไว้เหอะ  หากต้องการค่อยมารื้อหาใหม่

(9)     ฉันจะเป็นแบบนี้  ขออยู่ในที่ที่ปลอดภัยก็แล้วกัน ไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงอะไรหรอก ชีวิตแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว

(10) ผลัดไปเรื่อย ๆ  เดี๋ยวคนที่เกี่ยวข้องเขาก็มาเอางานไปทำต่อเองล่ะ หรืองานมันจะต้องไปรีบอะไรมากมาย

ผมคิดว่า ไม่มีใครหรอกครับที่ต้องการจะล้มเหลว และตั้งหน้าตั้งคาที่จะทำในสิ่งที่ผมนำเสนอท่านผู้อ่านไปนี้  การที่นำเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง จึงมุ่งหมายที่จะให้ท่านผู้อ่าน อย่าได้ไปประพฤติในสิ่งต่าง ๆ ที่ว่ามานั้น และมองในมุมตรงข้ามกับที่ว่าไป  มันก็คืออีกด้านหนึ่งของความสำเร็จ จริงมั้ยครับ

ผมเชื่อว่า ท่านผู้อ่านจะนำไปใช้ประโยชน์ได้จากข้อเขียนนี้ และหากจะอ่านต้นฉบับได้ก็จะเป็นการดีที่จะได้รายละเอียดมากขึ้น เพราะตัวผมเองแม้จะเขียนเรื่องพวกนี้มามากพอสมควร แต่ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถสร้างสูตรสำเร็จเพื่อสอนใครเช่นเดียวกับผู้รู้หลายท่าน ที่ได้สั่งสมประสบการณ์ ความคิด ความรู้มาเนิ่นนานยาวนาน จนตกผลึกเป็นความคิดที่มีคุณค่า  ผมเองจึงต้องการเพียงอยากแลกเปลี่ยนมุมมองกับทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านเรื่องน่าสนใจเหล่านี้