ตอนที่ 5 สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ (ตอนจบ)
เอาล่ะครับ ข้อแนะนำสำหรับท่านผู้อ่านท่านใดที่จะต้องไปเริ่มงานในที่ทำงานใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตำแหน่งที่โตกว่าเดิม ก็เวียนมาถึงคราวจบจากหลายตอนแล้ว ดูดูไป...ก็แค่การไปเริ่มงานใหม่ ไม่น่าจะมีอะไรมากมายเลย สรุปแบแล้ว มันกลับไม่ได้ ชิล ชิล เหมือนที่คิด คำว่าปรับตัวให้ได้ กลายเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องอาศัยเทคนิควิธีการที่เหมาะสมมากพอควร โดยมีหลายเรื่องเช่น การรู้จักจังหวะ การฟังมากกว่าพูด เป็นองค์ประกอบที่ควรค่าสำหรับการนำมาคิด และปฏิบัติ
ตอนสุดท้ายนี้เป็นเรื่องของความไว้ใจ หรือความไว้เนื้อเชื่อใจครับ
พอคุณเข้าไปเริ่มงานกับองค์การใหม่ เรื่องที่คุณพยายามที่จะทำผมว่าคงหนีไม่พ้นการมองหาคนที่คุณไว้ใจได้ คนที่จะพูดคุยกับคุณได้ดี คุณสามารถเรียนรู้องค์การใหม่จากเขา
แต่การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในที่นี้ ไม่ได้หมายความถึงแค่เรื่องที่คุณจะหาคนที่ไว้ใจได้มาไว้ข้างตัวเท่านั้น แต่ยังกินความไปถึงการที่คุณจะต้องทำตัวให้คนอื่นรอบตัวคุณไว้ใจได้ด้วยครับ ว่าไปก็ทั้งสองมุมนั่นเอง
แล้วอย่างไรหรือคือกลเม็ดเคล็ดลับสำหรับการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ...???
ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่าง Dr.Karen Otazo บอกเอาไว้ว่า ไม่มีสูตรตายตัว มันไม่ได้เป็นสมการอะไร หากแต่เป็นเรื่องของความรู้สึกเพียว ๆ เป็นเรื่องของอารมณ์ของมนุษย์ปุถุชนที่ใช้วิจารณญาณส่วนตัวของแต่ละคนในการตัดสิน และแน่นอ จะมากจะน้อย มันก็จะมีความไม่แน่นอ มีอคติ คู่กันไปเสมอ ความไว้เนื้อเชื่อใจกันนี้จึงกลั่นมาจากประสบการณ์ที่รับรู้หรือเรียนรู้มา สรุปจากสิ่งที่พบเห็นประกอบกับความคาดหวังที่มี แล้วรู้สึกมากบ้างน้อยบ้างอย่างที่ทัศนคติอยากให้เป็น
การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ เพื่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกันในที่ทำงานหรือในการทำงานนี้ เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกฝ่ายล้วนแต่จะต้องสร้าง หากฝ่ายหนึ่งสร้าง ฝ่ายหนึ่งคอยแต่จ้องทำลายก็คงไม่ไหวจะเคลียร์...
นอกจากนี้แล้ว การที่คนเราจะไว้เนื้อเชื่อใจกันเพียงใด หรือแบบใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับบทบาทความสำคัญที่เขามีต่อเรา และเรามีต่อเขาด้วย เป็นต้นว่า ลูกน้องของคุณอาจจะมีความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับคุณมากกว่า ในขณะที่คุณอาจจะไว้เนื้อเชื่อใจสมาชิกในทีมไม่มากเท่ากับลูกน้องที่คุณทำงานกับเขา
Dr.Karen Otazo บอกไว้ว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจในการทำงานนั้นมีหลายแบบ ได้แก่ ความไว้เนื้อเชื่อใจในความเชี่ยวชาญของคนอื่น หรือไว้เนื้อเชื่อใจในทักษะความสามารถ ความไว้เนื้อเชื่อใจในวิถีการปฏิบัติและความฉลาดทันเกม และความไว้เนื้อเชื่อใจว่าคนอื่นเขาจะทำอะไรโดยคิดหน้าคิดหลัง คิดถึงผลประโยชน์ที่มีต่อองค์การส่วนรวมมากกว่าตัวของเขาเอง อันนี้เรียกว่า ความไว้เนื้อเชื่อใจเชิงโครงสร้าง เป็นภาษาทางวิชาการที่อย่าไปจำมันเลยครับ อาจจะไปงงเทียบกับโครงสร้างองค์การได้....
ในการทำงานร่วมกัน เราจะมีความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันอย่างน้อยก็หนึ่งรูปแบบ แต่โดยมากก็หลายรูปแบบปะปนกัน ขึ้นอยู่กับงานที่ทำด้วยกัน หรือที่จะต้องเกี่ยวข้องกัน
คำแนะนำสำหรับคุณคนใหม่ขององค์การในเรื่องการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้เกิดขึ้นก็คือ นอกจากคุณจะต้องสร้างให้มันเกิดขึ้นในจิตสำนึกของคุณแล้ว ขอให้คุณมองหาโอกาสที่จะศึกษาตัวตนของคนที่ทำงานกับคุณ เพื่อเรียนรู้ว่าจะสามารถไว้ใจเขาได้มากเพียงใด ใครก็ตามที่ทำลายความไว้ใจคุณ ต่อไปคุณก็ไม่ควรที่จะมอบหมายงานที่สำคัญให้กับเขาอีก
คำเตือนเด็ด ๆ แต่น่ากลัวชอบกลของ Dr.Karen Otazo มีอยู่ว่า ที่ทำงานนั้น ไม่ใช่ที่ที่คุณจะทำอะไรผิดพลาดเป็นครั้งที่สอง และก็ไม่มีครั้งที่สามให้ได้ลองด้วย
การเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่คุณต้องไปเริ่มต้นทำงานใหม่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากความคุ้นเคยของคุณจากที่ผมได้หยิบมาเล่านี้ จะช่วยให้คุณไม่พลาดในครั้งแรกได้ครับ
จบแล้ว...แต่โดยดี !!
ในตอนต่อ ๆ ไป ผมจะขอนำเสนอเทคนิคการทำงานกับหัวหน้างานเพื่อให้ได้ผลงาน มาแชร์กับท่านผู้อ่าน คละไปกับบทความดีดีที่ผมได้มีโอกาสอ่านและกลั่นกรองมานำเสนอ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทุกท่านครับ...