ตรงไปตรงมา
ผมได้ยินหลายคนที่ประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะอะไรก็ตามมักจะพูดกันเสมอว่า ในวงการธุรกิจต้องไม่โง่ คำๆ นี้ความหมายก็คือว่าต้องหาวิธีเอาเปรียบชาวบ้านให้ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เรียกว่าทำอะไรแบบซื่อตรงไม่ได้กะเขาหรอกหากคิดจะเป็นนักธุรกิจ อย่างนี้ทุกคนต้องมีนิสัยฉลาดแกมโกงใช่ไหมจึงจะอยู่ในวงการกะเขาได้
อันที่จริงผมไม่เห็นด้วยเลยกับความคิดแบบนี้เลย เรามาทำธุรกิจแบบยึดหลักพุทธศาสนาดีกว่า ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุตจริต แต่ไม่โง่นะ เดินทางสายกลางดีที่สุด ผมเคยเห็นมาแล้วนักธุรกิจที่ยึดคติแนวทำธุรกิจแล้วต้องมีเลห์เหลี่ยม เอาเปรียบชาวบ้าน สุดท้ายเข้าก็ต้องพบกับวิบากกรรมกับแนวความคิดอย่างนั้นของเขา บริษัทต้องประสบปัญหานานัปการ นับตั้งแต่ถูกโกงไม่ยอมจ่ายเงิน เช็คเด้ง เอาสินค้าไปปลอมแปลง ซึ่งคนที่ทำกับเขาก็ล้วนแต่เคยติดต่อค้าขายกันมายาวนาน เพราะเขาเองก็โกงคนอื่นมาเหมือนกัน
ทำไมหรือทำงานอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้หรือ บ้านเราเมืองเราเป็นเมืองพุทธ พุทธศาสนามีหลักคำสอนสำหรับผู้ครองเรือนได้ปฎิบัติกันอยู่แล้ว หรือเป็นเพราะว่าวัฒนธรรมต่างชาติเขามามีอิทธิเหนือจิตใจของพวกเขา แยกกันไม่ออกหรืออย่างไรว่าอะไรดีหรืออะไรชั่ว ผมไม่เชื่อเด็ดขาดว่าคนโกงจะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข กองเงินกองทองที่หามาได้จากการโกงชาวบ้านเขามา ก็ไม่ได้ทำให้เขาผู้นั้นมีความสุขอย่างแท้จริงแต่ประการใด "คนที่ทำดีย่อมได้ดีเสมอ คำนี้ยังศักดิ์สิทธิ์และทันสมัย ใช้ได้ตลอดกาลครับ" ทำดีไปเถิดครับทุกคนผลสุดท้ายต้องรุ่งเรืองแน่นอนผมเชื่ออย่างนั้น
|