หน้าแรก เขียนใบสมัครงาน ลงโฆษณางาน ค้นหาใบสมัครงาน คู่มือการใช้งาน Menu

สนใจลงโฆษณา โทร. 02-275-1900, 02-612-4900, 038-395000

space
   ค้นบ่อย : หางานบัญชี, หางานธุรการ, หางานจัดซื้อ, หางานผู้จัดการ, หางานขับรถ, หางานบุคคล, หางานคลังสินค้า, หางานครู, หางานวิศวกร, หางานเขียนแบบ, หางานคีย์ข้อมูล, หางานการตลาด, หางานโรงแรม, หางานสิ่งแวดล้อม, หางานคอมพิวเตอร์, หางาน Programmer, หางานประชาสัมพันธ์, หางานช่าง, หางานสถาปนิก
เรื่อง บางอย่างที่ฝากไว้ให้ “นักศึกษามืออาชีพ” ได้คิด (ตอนจบ)
เขียนโดย ชัชวาลย์

Rated: vote
by 37 users

คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?

 




มาว่ากันต่อเลยครับ

เรียนรู้ความรู้นอกตำรา อย่ายึดติดแต่กับทฤษฎี

ข้อนี้มักเป็นความจริงที่คนทำงานทั้งหลายมักเอ่ยปากว่า พอไปทำงานจริง ตำราทั้งหลายที่เรียนมาแทบจะไม่ได้ใช้  จริงจริงก็ไม่ทั้งหมดครับ เพียงแต่ในระดับของการปฏิบัติงาน ตำราไม่ได้บอกละเอียด เพราะตำราให้แนวคิดพื้นฐานเสียมากกว่า ซึ่งว่าไปแล้ว องค์ความรู้ที่มีบอกไว้ในตำราที่น้อง ๆ เรียน มันอาจจะไปตรงกับความต้องการของผู้ปฏิบัติงานระดับสูงขึ้นไปสักนิด ที่จะต้องใช้ความรู้พวกนี้มาประยุกต์เอากับการทำงานจริง  ตำราจึงให้วิธีการปฏิบัติงานที่ค่อนข้างหยาบ  นี่คือเหตุผลที่ผมสนับสนุนให้น้อง ๆ เรียนรู้อะไรนอกตำราเรียนไว้บ้าง

ในโลกของความเป็นจริง ความรู้ที่เราใช้ในการทำงานมีหลากหลายนอกจากตำราเรียนครับ  คนทำงานมักพึ่งพิงหนังสืออีกแบบหนึ่งที่เราเรียกกันว่า “know how” หรือเทคนิควิธีการทำงานนู่น นี่ นั่น เสียมากกว่า ซึ่งบอกเรื่องที่เป็นวิธีการของการทำงานจริงมากขึ้น  ซึ่งบางเล่มก็ให้ทั้งแนวคิด+วิธีปฏิบัติที่นำมาใช้แล้วเป็นผลสำเร็จในบางองค์การ  หากถามว่า Know how พวกนี้คืออะไร ผมคิดว่ามันก็คือภาคปฏิบัติจากทฤษฎีหรือแนวคิดที่นำมาปรับใช้ในบางสถานการณ์ขององค์การที่ได้ผลแล้วนำมาแนะนำบอกต่อนี่เอง  การอ่านหนังสือพวกนี้ จะช่วยให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้โลกของการทำงานที่ชาวบ้านเขาทำกัน ซึ่งให้แนวคิดที่ลุ่มลึกมากขึ้นกว่าตำราที่บางทีอาจารย์อาจจะเขียนให้นักศึกษาปีนบันไดอ่าน กระทั่งทำให้นักศึกษาจำนวนไม่น้อยไม่อยากจะอ่านไปเลย  

แต่การเรียนรู้ทฤษฎีก็ไม่มีอะไรเสียหาย ตรงกันข้าม หากน้อง ๆ สามารถทำความเข้าใจทฤษฎี หรือแนวคิดต่าง ๆ ได้อย่างเข้าใจ ก็ย่อมเป็นประโยชน์ทั้งในการศึกษาต่อ และการนำมาคิดต่อยอด

น้อง ๆ ที่อยากจะสร้างความพร้อมของตัวเองสำหรับการทำงาน และเรียนรู้เพื่อให้ได้แง่มุมความคิดที่หลากหลายลุ่มลึก จึงควรอย่างยิ่งที่จะต้องอ่านหนังสือแบบที่ว่านี้ด้วยครับ อ่านคู่กันกับตำราเรียนหลักนั่นล่ะดี ผมคิดว่า ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยทั้งหลายมีหนังสือเหล่านี้จำนวนมาก และมากกว่าตำราเรียนที่อาจารย์แนะนำให้อ่านเสียด้วยซ้ำ

อีกเรื่องหนึ่งที่น้อง ๆ มักจะพบคือการที่อาจารย์สอนโดยใช้กรณีศึกษาหรือ Case Study มันเป็นยังงัย ดีตรงไหนล่ะ

ผมคิดว่าอาจารย์แทบจะร้อยทั้งร้อย จะพยายามหยิบยกตัวอย่างกรณีศึกษามาอธิบายประกอบกับแนวคิดทฤษฎีที่นำมาพูดถึงในชั้นเรียน  เพียงแต่ในระดับปริญญาตรี เนื่องจากอาจารย์ก็อยากให้พื้นฐานแนวคิดที่แน่นแน่นกับนักศึกษาเสียก่อน จึงมักจะว่ากันตามตำราเป็นส่วนใหญ่ จะยกกรณีศึกษามากล่าวถึงก็เกรงนักศึกษาจะไม่เข้าใจ เพราะนักศึกษาแทบจะไม่ค่อยได้เรียนรู้โลกของการทำงาน ทำนองว่า มันยังไม่ถึงเวลา

อาจารย์ก็คิดน้อยไปหน่อย ว่ากันแล้ว กรณีศึกษาเป็นวิธีการนำเสนอเนื้อหาของการเรียนการสอนอีกวิธีหนึ่ง ทักษะ วิธีการนำเสนอในการสอน และเนื้อหาที่เคลียร์ของอาจารย์ต่างหากที่จะช่วยให้นักศึกษาเข้าใจ อาจารย์ก็ต้องทำการบ้านนิดนึงครับ เพราะโลกการทำงานของอาจารย์จริง ๆ มันไม่ได้แก้ไขปัญหาในการทำงานสารพัดพอที่จะสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยการทำงานของอาจารย์เอง เว้นเสียแต่อาจารย์จะไปเป็น consult ให้กับองค์การเอกชนทั้งหลาย แต่ทว่าหากอาจารย์ไม่เก่งจริง คงไม่มีใครจ้างครับ

อย่าละเลยที่จะทำกิจกรรมระหว่างเรียน

น่าเสียดายที่น้อง ๆ หลายคนไม่ค่อยจะสนใจทำกิจกรรมระหว่างเรียนบ้าง  น้อง ๆ ที่เป็นนักศึกษาเต็มเวลามักพบว่า มหาวิทยาลัยทั้งหลาย มักจะมีกิจกรรมนอกหลักสูตร เรียกว่ากิจกรรมชมรมบ้าง กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์หรือกิจกรรมการให้บริการทางวิชาการกับชุมขนมากมายไปหมด มีทั้งกิจกรรมภายในรั้วมหาวิทยาลัยและที่จะต้องออกไปพบปะชาวบ้านภายนอกบ้าง กิจกรรมเหล่านี้ สอนให้น้อง ๆ  นอกจากจะเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตกับคนอื่นหรือคนหมู่มาก ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มเพื่อนร่วมคณะหรือต่างคณะก็ตาม บางทีก็เป็นคนที่มาจากต่างสถาบัน สอนให้เราได้เรียนรู้จักวิธีการทำงานเป็นคณะ เป็นทีม การปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนความเห็น การโน้มน้าวให้คนอื่นเห็นด้วยกับความคิดเรา และยังช่วยให้น้อง ๆ ได้เห็นโลกอีกหลายมุมมองที่น้องอาจจะไม่เคยพบเลยตั้งแต่เริ่มโตเป็นหนุ่มสาว  หลายกิจกรรมที่ต้องไปช่วยเหลือบำเพ็ญประโยชน์ สอนให้เรามีจิตสำนึกที่ดีงามต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เรียกว่าจิตสำนึกสาธารณะ ซึ่งมักจะเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในบรรดาคนรุ่นหนุ่มสาวยุคนี้  รู้จักเอื้ออาทรแบ่งปันระหว่างกัน สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ช่วยปรับวิธีคิดวิธีการครองตัวของน้อง ๆ ได้มากทีเดียว  แต่ก็มีน้องๆ จำนวนไม่น้อยที่มีโลกส่วนตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ไม่สนใจกิจกรรม เอาเป็นว่าฉันตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว ก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่มันน้อยไปหน่อย ทบทวนมุมมองบ้างก็ดีเช่นกัน....

เข้าใจมารยาทสังคม

ข้อผิดพลาดที่น้อง ๆ อาจจะไม่ได้คิด หรือคิดน้อยไปหน่อย จนทำให้ปรับตัวไม่ทันเวลาที่ไปทำงานจริง ทำให้เกิดความอึดอัดอย่างมากเลยได้แก่ life style ของชีวิตนักศึกษาที่แตกต่างจากคนทำงาน ความอึดอัดนี้เป็นมรดกของความเคยชินสมัยเป็นนักเรียนนักศึกษามืออาชีพครับ  เพราะเราอยากจะตื่นตอนไหนก็ได้  ไปดูหนังกับเพื่อนหรือแฟนมาดึก กลับถึงหอพักไปเรียนไม่ทันก็ลาอาจารย์บอกว่าป่วย ไม่ต้องไปจริงจังกับเรื่องใบรังรองแพทย์ เว้นเสียแต่ช่วงสอบที่ต้องเป็นเรื่องอยู่บ้าง  หาเหตุผลมาอธิบายสารพัดกับอาจารย์สักนิดก็พอได้ แต่กับที่ทำงานมันไม่ได้ครับ

อยากให้น้อง ๆ ลองดูตัวอย่างจากเรื่อง “Do&Don’t ในวันทำงาน” ที่ผมนำเสนอไว้ในเวบสิครับ (คีย์คำนี้ใน google ก็เจอ !!!)  ลองคิดดู จะเห็นว่าแหมมันเรื่องมากนะ จริงครับ มันคือมารยาทในการทำงานที่น้องจะต้องปรับตัวให้ได้ จะถือว่าฉันเป็นของฉันแบบนี้ไม่ได้ครับ เพราะบริษัทหรือองค์การทั้งหลายก็จะบอกว่า งั้นคุณก็อยู่ไม่ได้ เพราะบริษัทก็เป็นของบริษัทแบบนี้เหมือนกัน ก็ตกงานสิครับ....!!! อยากให้น้อง ๆ เรียนรู้จากที่ผมแนะนำให้ไปอ่านเข้าไว้บ้าง สร้างความคุ้นเคยไว้ก็ไม่เสียหายหรอก เพราะมันจะได้นำไปใช้จริง ๆ เวลาไปทำงาน หรือจะใช้มันในระหว่างเรียนก็ไม่เสียหาย เพราะมันเป็นมารยาทสังคมที่คนส่วนใหญ่ยอมรับกัน เช่น เรานิยมตั้งโทรศัพท์ระบบสั่นในที่ทำงาน  แต่ในห้องเรียนสิ โชว์เต็มที่ เสียงเรียกเข้าแบบใหม่ เร่งเสียงให้ดังเข้าไว้  หากไปอยู่ในที่ทำงาน อาจจะโดนหัวหน้างานตำหนิว่า “ไม่มีมารยาท...ไปเปิดที่บ้านไป๊”  ก็ได้นะครับ      

ฝึกความทดทนและรับผิดชอบให้มากเข้าไว้

คาถาของคนทำงานที่ประสบความสำเร็จก็นำมาใช้กับการเรียนได้ครับคือ “อดทนและรับผิดชอบ” ในหน้าที่ของตัวเอง ในหน้าที่ของการเรียนก็พยายามเรียนให้ดี ทำหน้าที่ให้ครบให้ตรงกับบทบาทของตัวเอง  นักศึกษผู้ชายไม่มีหน้าที่ไประเบิดหูเพื่อใส่ต่างหูรูเบ้อเร้อฉันใด ในการทำงานเชื่อว่าหัวหน้าทั้งหลายก็ไม่ได้ปลื้มฉันนั้นล่ะครับ เพราะบางทีมันก็มากเกินไป นอกเสียจากไปทำงานส่วนตัวหรือทำงานบริษัทแฟชั่นอะไรทำนองนั้นก็อาจจะไม่ว่ากัน แต่หากคุณต้องไปพบลูกค้า มันจะเหมาะหรือเปล่าล่ะ...

ความอดทนและรับผิดชอบที่ผมว่าไป ทำง่าย ๆ ด้วยการตั้งหน้าตั้งตา ในเรื่องตอนก่อนผมแนะนำว่า การต่อรองส่งการบ้านนี้ ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ไม่ควรทำ ด้วยเหตุผลที่ผมยกตัวอย่างไป

ขอเล่าเรื่องเล็ก ๆ ให้น้อง ๆ ฟังนิดหน่อยพอเป็นกระษัยว่า เคยมีการสำรวจชั่วโมงการฝึกฝนตัวเองของนักกีฬาหรือนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของ Malcolm Gladwell ในหนังสือเรื่อง “Outliers: The Story of Success” เค้าพบว่า คนในอาชีพดังที่ว่าที่ประสบความสำเร็จต้องฝึกฝนตัวเองไม่น้อยกว่า 10,000 ชั่วโมง ตีซะว่าหาดเค้าจะต้องฝึกซ้อมกีฬาหรือดนตรีวันละ 2 ชั่วโมง เค้าต้องใช้เวลามุมานะทุกวันถึง 14 ปีเชียวนะครับ  คำถามที่ถามกลับคือ เวลา 2-3-4 ปีระหว่างเรียนปริญญาตรีนี่  น้อง ๆ ได้ฝึกฝนตัวเองให้เก่งอะไรบ้าง นั่นล่ะคือคุณค่าที่น้อง ๆ จะต้องคิดสร้างให้กับตัวเอง แม้จะไม่ต้องไปเดินตามเค้าเสียขนาดนั้นก็ตาม

เกรดนี่ล่ะสำคัญ

สุดท้ายท้ายสุดที่อยากให้ข้อคิดคือเกรดนี่ล่ะสำคัญ หลาย ๆ คนมักคิดว่าเรียน ๆ ไปพอให้จบจบ น่าตกใจที่น้อง ๆ หลายคนมาสมัครงานด้วยเหรดเฉลี่ยจากมหาวิทยาลัยเอกชน 2 นิดนิด แทบจะไม่จบหลักสูตร  เหล่า Recruiter หรือเจ้าหน้าที่สรรหาของบริษัทใดแค่เปิดเห็นประวัติการศึกษาและผลการเรียนก็แทบจะปิดไม่ต้องดูแล้วครับ

ทำไมหรือ...มันสะท้อนถึงความอดทนและรับผิดชอบตามหน้าที่  แม้แต่คนที่ต้องทำงานด้วยเรียนด้วย เราก็ยังคิดว่าผลการเรียนก็สำคัญ ไม่ใช่เรียนให้พอจบไปเพื่อทำงานอย่างเดียว  อย่าลืมครับ บริษัททั้งหลายเค้าเป็นประเภท “สวยเลือกได้” นะครับ ก็คนจบมาแต่ละปีมหาศาล  ที่เปลี่ยนงานหรือตกงานก็แทบจบหลายสิบคันรถ  องค์การก็สามารถเลือกได้ และก็เลือกง่าย ๆ จากผลการเรียนนี่ล่ะ

ผมการเรียน ยังบอกกถึงระดับสติปัญญาและความสามารถในการเรียนรู้ของน้อง ๆ ด้วยเช่นกัน  บริษัทมักใช้เป็นข้อมูลประกอบที่สำคัญตัวหนึ่ง ควบคู่ไปกับประสบการณ์การของการทำงาน หรือการทำกิจกรรมระหว่างเรียน แต่หากให้น้ำหนักแล้ว ประสบการณ์การทำงานซึ่งอาจจะเป็นงาน part-time ก็ได้ ก็ย่องจะมีภาษีดีกว่า เพราะกิจกรรมระหว่างเรียนระหว่างศึกษานั้น บริษัทเค้าไม่เห็นด้วยซะหน่อยนี่ครับ จะบอกอะไรมาก็ว่าไป เพราะมันตรวจสอบยาก แต่การทำงานนี่สิ แค่ยกหูสอบถาม หรือดูจากหนังสือรับรองการทำงานก็เห็นชัดเจนแจ่มแจ๋ว

น่าเสียดายอีกนั่นล่ะที่น้อง ๆ ที่ใช้เงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายหรือตั้งใจสร้างผลการเรียนหรือเกรดที่ดี จึงขอย้ำนะครับว่า เกรดนี่ล่ะสำคัญมาก

อย่าปล่อยให้ชีวิตของนักศึกษามืออาชีพผ่านไปโดยที่ไม่ได้สร้างคุณค่าให้กับตัวเอง....เพราะเวลามันเอาคืนมาไม่ได้ ชีวิตไม่สามทรถ undo ได้เหมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ครับ     




ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้ ...

 

user_icon

Knowledge Center
knowledge center
knowledge

star

หลักการเลือกซื้อรถมือสอง
 
เรื่องน่ารู้ตามหมวดหมู่
• การแพทย์
• ความรู้ทั่วไป
• เรื่องของผู้หญิง
• กีฬา
• ข่าวและสื่อ

และอื่น ๆ อีกมาก

  ค้นหาเรื่องที่คุณสนใจ
ระบุ keyword
 
True vision

TV Icon

TV Interview

หลากเรื่องราวทางธุรกิจ แง่มุมของผู้บริหาร จากบริษัทชั้นนำต่างๆ

dot
HR Corner
สัมภาษณ์คัดเลือกผู้สมัครงานอย่างไร? ให้ตรงสเป็ค
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
 
The Seeds of Innovation นวัตกรรมใหม่แห่งการพัฒนาบุคลากร
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
 
การสร้างความแตกต่าง ให้เหนือคู่แข่ง
คุณมกร พฤฒิโฆสิต
https://www.jobpub.com/new_images/play.gif
dot

https://www.jobpub.com/new_images/playall_b.gif

 

หางานบ่อย : รƒยกรƒยข ร˜ยฒ .6 ร˜ยงร ยทยพ งานแท่นเจาะน้ำมัน ส่วนกลาง เเม่บ้าน วุฒิ ม.6 หญิง กทม พระราม1 35ปี พนักงานขายเคดิต solvay งานดีๆ ธุรการ มหาวิทยาลัย รามคำแหง2 สมัครงานที่ พัทยา บริษัทซีพีที่มหาชัย สมัครงานธนาคารกรุงศรี งานทั่วไปเขตกรุงเทพ งานฝ่ายต่างประเทศ นวนคร เลขา จีน QA QC R&D วุฒิม.6 มหาสารคาม wreptete overseas pretty event วุฒิ ม3 บางนา cr n คนพิการเชียงราย วิศวกร ภาคกลาง รังิสิต แม่ครัวทำที่บ้าน การขาย ธุรการ ฝ่ายผลิต ชายคา หางาน นักศึกษาฝึกงาน โรงเรียนกระทุ่มล้ท ตำแหน่งการตลาดพัทยา คุณครูผู้ช่วย กุ๊ก แม่ครัว วุฒิ ม.6 แถวพรานนก โรงพยาบาลบางละมุง สายตรวจ รปภ ธี่ พีซีจัดรายการ เขตธนบุรี พรักงานธุรการ ชลบุรี UM tower ผู้จัดการฝึกหัดเซเว่น cash van sale หางานให้พม่าทำ1คน จังหวัดยะลา งานsaff โรงแรม ในกรุงเทพ งานในลาดกระบัง งบ