จะพัฒนาบุคลากรไปทำไม?
สำหรับสถานประกอบการในปัจจุบัน กล่าวกันว่าคนหรือบุคลากรเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด เพราะสามารถเพิ่มมูลค่า(Value) ได้ดีกว่าทรัพยากรอื่นๆ ทั้งหมด และไม่มีสิ้นสุดด้วย
ความต้องการบุคลากรเข้าร่วมงาน สถานประกอบการส่วนมาก ต้องการคนที่เก่งที่สุด และดีที่สุด เท่าที่จะคัดสรรมาได้ (Recruitment)
หากแต่คนต่างๆ ที่ถูกคัดเลือกเข้ามานั้น มีความสามารถเท่าใดยังไม่อาจรู้ได้ เพราะยังไม่ได้แสดงความสามารถในงานจริงๆ ให้ประจักษ์
ต่อเมื่อได้ทำงานนั้นจริงๆ แล้ว ยังไม่ได้ตามที่คาดหวังหรือยังไม่ได้ตามที่ต้องการก็ต้องมีการอบรม แนะนำ สั่งสอน เพื่อให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ ตามที่องค์กรต้องการให้ได้ หรือแม้แต่ได้บุคคลากรที่มีความสามารถเป็นอย่างดีมาแล้วและสร้างผลิตภัณฑ์ได้ตามที่องค์กรต้องการได้ตั้งแต่ต้น ก็ต้องมีการอบรม แนะนำ สั่งสอนเพื่อให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ ได้ดียิ่งขึ้น มากขึ้น รวมไปถึงการวางแผน ทางด้านการใช้ทรัพยากรต่างๆ และการควบคุมการใช้ทรัพยากรและการจัดการได้เพิ่มขึ้น
นั่นคือการพัฒนาบุคลากร
จำเป็นต้องพัฒนาหรือไม่
ตอบว่าจำเป็นมากครับ
แล้วบางองค์กรที่เขาไม่สนใจทางด้านการพัฒนาบุคลากรล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น
มองเห็นได้เป็นรูปธรรมคือ การจัดการจากภาครัฐ ที่มีการกำหนดให้สถานประกอบการที่มีบุคลากรตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องมีการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยการจัดให้พนักงานได้รับการอบรม อย่างน้องคนละ 1 หลักสูตรไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง และไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมด หากดำเนินการไม่ครบ50 เปอร์เซ็นต์ ต้องจ่ายเงินเข้าสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ในอัตราร้อยละ 1 ของจำนวนที่ขาด
เป็นการบังคับให้สถานประกอบการต้องจัดอบรมให้กับพนักงานเพื่อเพิ่มความรู้ ความสามารถแก่พนักงาน
ยอมจ่าย ไม่ทำ จะเกิดอะไร
ไม่อยากเสียบุคลากร 80 คนต่อวันในการอบรม(จุดที่มากที่สุด) เพราะต้องการผลิตสินค้าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ (War production) เพื่อผลประโยชน์ของสถานประกอบการ
ลองมาดูการซื้อเครื่องจักรมาเพื่อการใช้ประโยชน์ดังนี้
SET UP 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี 6 ปี |
(ประสิทธิภาพ)
SET UP 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี 6 ปี |
SET UP 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี 6 ปี |
SET UP 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี 6 ปี |
SET UP 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี 6 ปี |
SET UP 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี 6 ปี |
SET UP 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ปี 5 ปี 6 ปี |
เวลา
จากภาพจะเห็นได้ว่า หลังจากการติดตั้งเครื่องจักรสามารถทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุดตามลักษณะของเครื่องจักรนั้นๆ เมื่อระยะเวลาผ่านไป ตามภาพประมาณปีที่ 3 ประสิทธิภาพของเครื่องจักรเริ่มตกลง เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อเรามีการบำรุงรักษา เครื่องจักรก็จะมีประสิทธิภาพดังเดิม หากแต่ ถ้าเราดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (KAIZEN และ TPM) ประสิทธิภาพของเครื่องจักรสามารถที่จะเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ตามภาพ
เหมือนคน ที่ว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่า หากไม่ได้รับการพัฒนา ค่าที่มีก็จะด้อยลง เพราะจะขาดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง อยู่ไปวันวัน ทำงานซ้ำๆ เดิมๆ เหมือนเครื่องจักร ความกระตือรือร้นก็จะน้อยลง ความเบื่อหน่ายก็เกิดขึ้น อาจส่งผลถึงผลิตภัณฑ์ ระหว่างการผลิตอาจมีข้อบกพร่องมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ส่งผลถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นไปกดตัวกำไรให้ลดลง และถ้าวันหนึ่งวันใด ต้นทุนสูงกว่าราคาขาย ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล
มันจึงเทียบไม่ได้กับการเสียบุคลากรไป 80 คน เพียงหนึ่งวัน แล้วไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น แต่ตรงกันข้าม กลับทำให้มีการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ การพัฒนาในกระบวนการ ให้มีการดำเนินการที่ดีกว่า ง่ายกว่า ปลอดภัยกว่า และทำได้มากกว่า นอกจากจะเป็นการเพิ่มให้ในสิ่งที่ขาด ฝึกการใช้สมอง ให้สมองได้รับการพัฒนาทางความคิด สิ่งดีๆ มันก็จะตามมาสมกับคำที่ว่า คนหรือบุคลากรคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด
มีการกล่าวกันว่าคนเรามีการพัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่แล้ว ที่เรียกว่าทักษะหรือความชำนาญ เกิดจากการที่ได้ทำซ้ำๆ บ่อยๆ ทักษะก็เกิดขึ้นได้ ดังรูป(เส้นสีแดง)
ทักษะ
ระยะเวลา
แต่ถ้ามีการพัฒนาด้วยการฝึกอบรมในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ความสามารถของบุคคลากรก็จะมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นในระยะเวลาอันสั้นกว่าปกติ
จึงเห็นได้ว่าการพัฒนาบุคลากรมีความสำคัญต่อองค์การเป็นอย่างมาก เพราะบุคลากรสามารถพัฒนาเพิ่มมูลค่าได้ง่ายและดีกว่าทรัพยากรประเภทอื่นๆ นั่นเอง