สังคมของคนเลี้ยงกบ
การจัดการอบรมเรื่องการเลี้ยงกบ ในกระชังในบ่อปลาและในแปลงนาเดือนมิถุนายน 2549 โดยมีสมาชิกให้ความสนใจรุ่นละ 35 คน มีคุณดำรง แม่นปืน และบรรณาธิการหนังสือเพื่อนเกษตร เป็นวิทยากรโดยลงลึกในกระบวนการเลี้ยงกบให้รอด และเทคนิคการตลาด โดยมีข้อมูลที่น่าจะ
เป็นสาระ ประโยชน์แก่ผู้ประกอบการเลี่ยงกบ และสำหรับมือใหม่ ดังนี้
1. ทำเลของการเลี้ยง น่าจะเป็นในภาคตะวันออก จังหวัดใกล้ชายแดนเขมรทั้งหมด เพราะว่าแรงงานหาง่าย ราคาถูก และตลาดมีความต้องการจำนวนมากในบริเวณชายแดนทั้งหมด เฉพาะที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ วันหนึ่งๆ ต้องการกบไม่น้อยกว่าวันละ 3-5 ตัน ซึ่งพ่อค้า - แม่ค้า หลายจังหวัดจะมารอรับกบ ราคาไม่สูงมากนัก แต่ในฤดูที่ขาดแคลนกบ เช่น เดือนธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ ราคาจะสูงมากขึ้น กิโลกรัมละ 80-90 บาท
- ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตั้งแต่จังหวัดนครราชสีมาขึ้นไป มีการบริโภคกบสูง แต่การเลี้ยงมีข้อจำกัดในเรื่องน้ำ ฉะนั้นการเลี้ยงกบจึงต้องใช้เทคนิค เช่น กบคอนโด,กบบก,กบในบ่อน้ำ จะช่วยได้มาก เพราะราคาสูง ราคาขายปลีกถึง 60-90 บาท ราคาในท้องตลาดสูงถึง 100-120 บาทต่อกิโลกรัม
2.เทคนิคการเลี้ยง จะต้องหลบในช่วงเวลาที่กบราคาถูก เช่น เดือนพฤษภาคม สิงหาคม ในทุกๆปี
จะมีกบออกมาจำนวนมาก ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ควรพักบ่อ บำรุงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เตรียมไว้สู้ในเดือนต่อๆไป
3. ความล้มเหลวในการเลี้ยงกบ คุณยุพา หนึ่งในผู้เลี้ยงกบซึ่งมีประสบการณ์ถึง 30 ปี เล่าว่าการเลี้ยงกบใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทั้งหมด บางรายก็ต้องประสบกับความล้มเหลงถ้าใจไม่สู้ กล่าวคือ
3.1 ไม่ศึกษาเพิ่มเติม เลี้ยงกบเอาแต่ใจตัวเอง ไม่ยอมดูไม่ยอมรับประสบการณ์ของผู้อื่นจึงต้องเอาตัวเองไปลองผิด ลองถูก จนล้มเหลวและยกเลิกไป ทางแก้ต้องเดินทางดูงานให้มากๆ
3.2 ไม่มีความอดทน ผิดต้องเป็นครู แล้วต้องไม่ผิดอีก ไม่กระทำซ้ำๆ ถ้าเราต้องคิดหาวิธีใหม่ๆ
3.3 การเลี้ยงกบในกระชังในแปลงนา ให้พยายามดูสภาพว่าสภาพดินต้องเป็นดินทรายจะดีกว่าดินเหนียว กรณีดินเหนียวจะทำให้สภาพน้ำเสียเร็ว เพราะการดูดซึมของดินไม่ช่วยให้ตะกอนจมลง
ดินเหนียวตะกอนจะลอยและหมักหมมมาก ต้องหมั่นถ่ายน้ำ บางแห่งไม่เข้าใจ เมื่อน้ำเสียกบจะตาย และเป็นโรคทำให้เสียหายได้
3.4 กบกินกันเอง เจ้าของไม่มีเวลามากพอที่จะดูแล ปล่อยกบอยู่ตามธรรมชาติที่หนาแน่น
กบจะกินกันเอง และตายทั้งคู่ ทำให้ขาดทุนได้
3.5 การเก็บแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์ การเก็บไว้ใกล้กันเดินไป กบจะกระโดดชนกำแพงของบ่อเลี้ยง และการเก็บแม่พันธุ์ในฤดูฝน กบถูกละอองฝนหรือเปียกฝน จะทำให้กบไข่ออกมา โดยไม่ได้รับการผสมพันธุ์กับพ่อพันธุ์ ไข่ก็จะเสียหาย และอย่าเลี้ยงกบให้อ้วน แม่พันธุ์ต้องให้ผอม จะได้ไข่จำนวนมาก
ให้อาหารที่มีคุณภาพ พ่อ-แม่พันธุ์ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้การเลี่ยงประสบผลสำเร็จหรือล้มเหลว เพราะจะเป็นปัจจัยทำให้การลดต้นทุนเกิดขึ้น และความแข็งแรงของกบที่จะโตดีหรือไม่
3.6 ความไม่เข้าใจในการป้องกันโรค การป้องกันต้องมาก่อนการรักษา อย่าปล่อยให้เกิดการรักษา จะทำให้การสูญเสียเริ่มมาเยือน ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ อาจแก้ไม่ได้ และไม่รู้จักแก้ ก็ยิ่งจะแย่กันไปใหญ่ โรคที่เกิดขึ้นพร้อมที่จะติดต่อไปยังตัวอื่น ต้องรีบเอาออกเข้าโรงพยาบาล (บ่ออื่นที่เตรียมเอาไว้โดยเฉพาะ) ทำการแก้ไขตัวเฉพาะ และต้องรีบป้องกันกบตัวอื่นๆ ทันทีอย่าปล่อยให้เกิดขึ้น เช่น หมั่นให้ยาป้องกันกบท้องอืด ให้ยาปฏิชีวนะป้องกันโรคแผลเน่าเปื่อยตามขากบ