HR Contribution

ในสภาพการณ์ของสังคมที่ความรู้เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไปตลอด และเป็นสิ่งจำเป็นของการเรียนรู้เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับหน้าที่การงานและชีวิต ในฐานะที่ผู้เขียนทำงานในสายงานบริหารทรัพยากรบุคคล จึงขอฝากเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำงานไว้ให้ได้เรียนรู้กัน ทั้งผู้เขียนและท่านผู้อ่าน ในลักษณะเรียนรู้ร่วมกัน สรรค์สร้าง HR เพื่อความเป็นมืออาชีพนะครับ....

เมื่อไม่นานมานี้  เพื่อนฝูงที่ทำงานในวงการศึกษาโทรมาคุย อยากให้แนะนำกับน้อง ๆ ที่เพิ่งจบจบการศึกษาภาคปลายบางคนที่กำลังเตรียมจะไปสัมภาษณ์งาน เพราะไม่มีประสบการณ์ และเห็นว่าผมเขียนเรื่องพวกนี้ทางเวบอยู่  พอมีเวลาก็หยิบคอมพิวเตอร์มานั่งพิมพ์  โดยขอแนะนำเรื่องง่าย ๆ ของการเตรียมตัวสัมภาษณ์เผื่อน้อง ๆ ก็ไม่รู้ไปใคร หรือท่านผู้อ่านจะนำไปทดลองใช้ตอนสัมภาษณ์งาน แต่เนื่องจากผมเคยเขียนไปบ้างแล้วว่าเตรียมตัวสัมภาษณ์นั้นทำอย่างไรถึงจะให้ดี ให้ประทับใจและได้งานในที่สุด ซึ่งก็จะไม่ว่ากันซ้ำอีกที แต่จะนำเสนอเทคนิคบางอย่างที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร แต่สร้างความประทับใจเมื่อแรกสัมภาษณ์ได้มากทีเดียว  ลองมาติดตามกันครับ

·        เมื่อเข้าถึงห้องสัมภาษณ์ ปิดประตูเบา ๆ แล้วกล่าวคำทักทายผู้สัมภาษณ์งานตามมรรยาท หากผู้สัมภาษณ์ของคุณเป็นชาวต่างชาติที่ใช้วิธีการจับมือเพื่อแสดงการทักทาย ก็จับเบา ๆ  เขย่านิด ๆ เท่านั้น ไม่ต้องบีบให้แน่น เขย่าซะ 10 วินาที เราไม่ได้ให้ใครถ่ายรูปเวลาจับมือ chake hand กัน ไม่ต้องกุมนานและจับแน่น แม้อาจจะประหม่าก็ตาม

·         นั่งบนเก้าอี้ที่เตรียมไว้อย่างสบาย ๆ ไม่หมุนตัว เอนเก้าอี้ไปมา ไม่ต้องทดสอบว่าเก้าอี้จะรับน้ำหนักคุณได้หรือไม่ เพราะอย่างน้อย มีคนเคยทดลองความแข็งแรงของเก้าอี้มากมายก่อนหน้าที่คุณจะสัมภาษณ์แล้ว 

·        อย่าวางมือบนโต๊ะที่นั่งสัมภาษณ์ โดยเฉพาะหากผู้สัมภาษณ์เป็นผู้ใหญ่ จะดูไม่เหมาะ ดูไม่สุภาพเลยจริงมั๊ยครับ 

·        ไม่ต้องรีบร้อนตอบ  รอให้ผู้สัมภาษณ์งานถามคำถามจนจบประโยคเสียก่อน เพื่อจะให้ไตร่ตรองสิ่งที่ต้องการตอบให้ดี  การใช้เวลาสักเล็กน้อยคิดไตร่ตรองคำถามให้ดี และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจฟังข้อคำถาม บ่งบอกถึงทักษะความสามารถในการจับประเด็นและการสื่อสารได้ในระดับหนึ่งเลยนะครับ  การตอบคำถามช้าสักนิด แต่คิดมาถี่ถ้วนไม่ได้เสียหายอะไร เพียงแต่อย่าบ่อย เพราะจะกลายเป็นว่าคุณคิดช้า แม้จะละเอียดลออก็ตาม จะชวนให้คิดว่า คุณจุกจิกไปเสียเลยนะครับ

·        มองและสบตาผู้สัมภาษณ์งานเสมอ ไม่ต้องมองหาจิ้งจกบนเพดาน ไม่ต้องลองลงล่างว่าพื้นห้องสะอาดหรือไม่  สิ่งที่คุณต้องสนใจคือผู้สัมภาษณ์เท่านั้น  การหลีกเลี่ยงที่จะสบตา มักแสดงให้เห็นว่าคุณไม่มั่นใจในตัวเอง หรือมีจุดอ่อนที่เปิดช่องชี้ชวนให้ผู้สัมภาษณ์สนใจเป็นพิเศษ

·        ให้ความสำคัญกับน้ำเสียงของคุณเวลาตอบ  บางคำถามคุณอาจจะรู้สึกกดดัน ก็ขอให้คิดว่า ผู้สัมภาษณ์งานอาจต้องการสร้างสถานการณ์ด้วยการตั้งคำถามที่กดดันกินใจมาก เพื่อดูความสามารถในการควบคุมอารมณ์ภายใต้แรงกดดันก็ได้ และว่าไปแล้ว คุณสมบัติเรื่องความสามารถในการรับความกดดัน รวมทั้งการทำงานภายใต้กรอบเวลาที่เร่งรีบ ก็เป็นเรื่องปกติที่แทบทุกองค์กร และตำแหน่งงานส่วนใหญ่ก็ต้องการทั้งนั้น  เมื่อไม่มีทางหลีกเลี่ยงคำถามแบบกดดันได้  คุณก็ต้องเตรียมรับมือกันมันให้ดี  มองปัญหาเป็นความท้าทายที่ต้องฝ่าไปให้ได้ดีกว่าครับ   

·        ไม่หมุนเก้าอี้  ไม่ผุดลุกผุดนั่ง ไม่เดินเข้าเดินออก ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ หายไป 3 นาทีกลับมาสัมภาษณ์ต่อ นั่นแสดงให้เห็นได้ชัดว่า คุณประหม่าอย่างมาก และเตรียมตัวมาสัมภาษณ์ไม่ดีเลย  

·         อย่าชวนผู้สัมภาษณ์ทะเลาะ หรือขัดแย้งกับผู้สัมภาษณ์ เว้นแต่คุณก็ไม่คิดว่าจะอยากคุยกับเค้าต่อไปอีกแล้วไม่ว่าจะในชาติภพใด งานก็ไม่สนใจแล้ว หรือประเมินดูสถานการณ์ไม่น่าจะดี  ก็ให้ขออนุญาตยุติการสัมภาษณ์ไปเลยก็ได้

·          พยายามสร้างบรรยากาศการสัมภาษณ์ที่ผ่อนคลาย ไม่กดดัน  คุณคงต้องพยายามยิ้มระหว่างตอบให้มากเข้าไว้เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์อารมณ์ดีตามคุณให้ได้ และในทางหนึ่งเป็นการตอบรับให้ความร่วมมือของคุณในสายตาของผู้สัมภาษณ์งาน

·          ไม่ต้องขอโทษขอโพย หรือสับสนงุนงงเมื่อไม่ได้ยินคำถามที่ถามมา  และไม่ต้องเดาสุ่มเพื่อตอบคำถามซึ่งอาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์อยากถามก็ได้ หากคุณไม่ได้ยิน ก็แค่ขอให้ผู้สัมภาษณ์งานทวนคำถาม หรืออธิบายในประเด็นคำถามที่คุณยังไม่เข้าใจเท่านั้นก็พอ

ชัชวาล  อรวงศ์ศุภทัต

Professional Human Resources-PHR

ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล                                      

บจก.กรุงไทยธุรกิจบริการ

E-Mail : [email protected]

Blog : http://chatchawal-ora.blogspot.com/