เรื่องของชูวิทย์ เจ้าพ่ออาบ อบ นวด หรือ ที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่า Massage Parlour Tycoon หรือ King of Sex หรือ อะไรก็แล้วแต่ ชักไปกันใหญ่แล้ว เพราะผลกระทบจากลมปากของเขานั้นส่งผลไม่ใช่แต่ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการการเมือง แต่มันเป็นคลื่นที่กระทบต่อเรา"ชาวบ้าน"ทุกผู้ทุกนามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าตอนท้ายของเรื่องจะออกมาอย่างไร ในมุมมองส่วนตัว ประชาชนตามดำๆนี่แหละที่ต้องทนทุกข์กับสิ่งที่เขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเลยแม้แต่น้อย อย่างที่เขาว่า - เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กระดูกแขวนคอ
ในมิติหนึ่ง หากการแฉของชูวิทย์นั้นมีมูลความจริง ตำรวจจะเป็นผู้ที่เสียเครดิตเต็มๆ
ความผิดในการคอร์รัปชั่น รับส่วย หรือรีดไถนั้นไม่ใช่ขึ้นอยู่กับตัวเงินว่ามากหรือน้อย แต่ถ้าเป็นการรับเขามาเพื่อเอื้อประโยชน์บางอย่างแล้วถือว่าเป็นการผิดที่เสมอภาค จะ ๑๐ บาท หรือ ๑๐ ล้านก็ตามแต่
เมื่อสมัยเด็กๆ ปู่ผมสอนให้ฟังว่า "ถึงแม้เราจะไม่มีเงินสักบาท เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปขอใครเขากิน คนเรามีเกียรติมีศักดิ์ศรี"
คนเรามีเกียรติ แล้วขายเกียรติกิน = ????
แล้วประชาชนอย่างเราล่ะ จะอยู่กันอย่างไร? จะพึ่งเขาได้ไหม? เขาจะเก็บตังค์เราไหม? เวลาที่เราเดือนร้อนเข้าไปขอความช่วยเหลือ
ข้ออ้างหนึ่งที่ถูกยกมาเพื่อเอาตัวรอดในการที่จะหนีจากสถานะผู้บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อปวงประชา คือ เงินเดือนน้อย และเป็นข้ออ้างที่กำลังจะทำลายความเชื่อมั่นในระบบราชการ ไม่ว่าจะเป็นวงการตำรวจ ครู และล่าสุด คุณหมอๆ ทั้งหลาย
ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากสิ่งเดียวเท่านั้น "ความไม่พอเพียง"
อย่านึกว่าหลังจากคดีชูวิทย์แล้ว "เงาดำ" เหล่านี้จะหมดไป มันเพียงแค่ต้องแสงมากไปหน่อย ก็เลยจางไปบ้าง แต่เมื่อความมืดเข้ามาปกคลุมอีกเมื่อใด มันก็จะโผล่มาให้เห็นกันอีกครา.....
นี่ไม่ใช่ "ธรรมดา" แต่เป็น "ธรรมชาติ"
ในทางกลับกัน หากตำรวจเป็นฝ่ายที่ถูกกล่าวหา และไม่มีมูลความจริงเอาเสียเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดต่อความคิดนึกของขาวบ้านเสียเหลือเกิน
แน่นอนที่สุด คุณชูวิทย์ ต้องรับกรรมตามที่ชิวหาของท่านได้พาไป ตำรวจทั้งหลายที่ตกเป็นเหยื่อของราชาอ่าง ไม่ต้องเสียใจกลับมารับภาระหน้าที่ตามเดิมอย่างสง่าผ่าเผย
แล้วพวกอีแอบเงาดำที่เหลืออยู่ในวงการจะได้รับการสังคยณาให้หมดไปหรือไม่ หากตำรวจเป็นฝ่ายกำชัย???
จริงๆแล้วคนรับส่วย หรือ คนให้ส่วย จะถูกลงโทษลงทัณต์อย่างไรไม่ใช่ความสะใจ ความต้องการที่แท้จริงของสังคม ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เมื่อไหร่คนในสังคมจะไม่ถูกประเมินค่าด้วยวัตถุที่เรียว่า "เงินตรา" ต่างหาก
|