20 ข้อง่าย ๆ ในการค้นหาศักยภาพตนเอง
ก่อนจะสมัครงาน
จะประกอบสัมมาอาชีวะ หรือจะไล่ล่าความฝัน เป็นโจทย์ที่ผู้กำลังหางานต้องตั้งสติทบทวนตนเองก่อนอื่น
" คุณทราบไหมว่า ทำไมคนส่วนมากจึงชอบเริ่มงานตั้งต้นงานกับบริษัทใหญ่ ๆ ? ก็เพราะพวกบัณฑิตส่วนมาก ไม่ทราบว่าจบแล้วจะไปทำอะไรดีนั่นเอง นี่คือคำให้สัมภาษณ์ของ ปีเตอร์ เอฟ. ดรักเกอร์ จากบทสัมภาษณ์ ของ ฮาร์วาร์ดบิสิเนสรีวิว ซึ่งเป็นคำนำอยู่ในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า Managing in A Time of Great Change,1995 คุณว่าปีนี้ คำพูดของกูรูอย่างดรักเกอร์ล้าสมัยหรือไม่ และเบื้องหลังบริษัทเหล่านั้น จะใหญ่หรือเล็กก็ตามได้ รวมทั้ง ทั้งภาครัฐในขณะนี้ ต่างก็มีฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ ที่จ้องจะคัดสรร พนักงานใหม่ที่ดีที่สุด เก่งที่สุดไว้ สัมภาษณ์ไม่เกิน 10 คน จากใบสมัคร เกือบพันต่อ 1 ตำแหน่งที่ประกาศรับ แล้วคุณคิดว่าจะผ่านด่านอรหันต์ด่านนี้ด้วยจดหมายสมัครงาน และ Resume แบบจริงใจใสซื่อ เหมือนพระเอกและนางเอกทางทีวีหรือ ได้รวบรวมคำถาม ทั้ง 20 ข้อนี้ มาให้คุณลองค้นหาตนเองควรตอบอย่างเป็นธรรม ละเอียด และจริงจัง อาจช่วยให้คุณพบตัวเองก่อน(ที่ทรัพยากรมนุษย์จะหาพบ) กรอกใบสมัคร หรือเขียนใบสมัครใหม่ได้ ไม่ยาก (ในต่างประเทศมีอาชีพรับจ้างเขียน Resumeรวมอยู่ด้วย ) 1.คุณเรียนจบด้านใด เอก อะไร ระดับใด 2.เคยผ่านการฝึกงาน ทำงานในด้านใดมาบ้าง เขียนลงทั้งหมด ระยะเวลาสั้น หรือ part time ประสบการณ์ที่ได้จากกานผ่านงานมาแล้วมีอะไรบ้าง 3.มีความสนใจด้านหนึ่งด้านใดเป็นพิเศษ 4.มีความรู้ ความสามารถ ความชำนาญด้านใดมากที่สุด เขียนจากชำนาญมาก ถึงชำนาญเรียงจากน้อยไปหามาก เพื่อประกอบในการช่วยตัดสินใจ 5.ถ้าต้องการทำงานให้องค์กร หรือบริษัท ต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ หรือต้องการสัปดาห์ละเท่าไหร่ และถ้าตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจจะให้เงินเดือนตนเองเท่าไหร่ อาทิตย์ละเท่าไหร่ หรือชั่วโมงละเท้าไหร่ 6.องค์กรแบบใดที่ต้องการทำงานให้ ในประเทศ ระหว่างประเทศ เขียนตามต้องการ ระบุประเทศ ถ้าต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจเอง ต้องการแบบอิสระ หรือ เข้าระบบแฟรนไชส์ ของ ไทย หรือต่างประเทศ 7.คุณชื่นชมการทำงานของผู้อื่นหรือไม่มีใครบ้าง ในเรื่องใด 8.ชอบทำอะไรมากที่สุด ในช่วงวันหยุด วันหยุดยาว ในวัยเด็ก ในช่วงเป็นนักศึกษา ลงในรายละเอียด 9.มีสิ่งใดบ้างที่ คุณ บอกกับตนเองว่า "วันหนึ่งจะทำให้ได้ " 10.คุณอยากทำงานวันละกี่ชั่วโมง หรือสัปดาห์ละกี่ชั่วโมง 11. คุณเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์หรือไม่ ด้านใดบ้าง เป็นช่วงไหน บ้าง หรือไม่ชอบเลย 12.คุณอ่านหนังสือไทยแล้วกี่เล่ม เล่มที่เกี่ยวกับ การบริหาร การตลาด การพยากรณ์เศรษฐกิจในอนาคต ความ ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่ หนังสือที่บุคคลสำคัฯในประเทศทรงนิพนธ์ไว้ได้อ่านหรือไม่ ลงรายละเอียดชื่อหนังสือ 13.มีการอบรม สัมมนา ใดบ้าง ที่ได้เข้าร่วม มีประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรอะไรบ้างที่ได้รับแล้วในขณะนี้ 14.มีรายชื่อบุคคลทางธุรกิจในประเภทใดบ้างที่คุณสามารถพูดคุย ปรึกษาได้ 15.ในชุมชนหมู่บ้าน บริเวณแถบพื้นที่ ที่พักอาศัย มีธุรกิจใดบ้างที่ยังไม่เปิดให้บริการ หรือยังไม่มี และมีธุรกิจใด ที่ควรจะมีแล้วยังไม่มี 16.มีงานแสดงสินค้า นิทรรศการ ใดบ้างที่เข้าไปชม ครั้งสุดท้ายไปชมงานอะไร ได้อะไรหรือมีความคิดเห็นอย่างใดบ้าง งานต่อไปที่จะไป คืองานอะไร วันที่เท่าไหร่ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง 17.เคยเข้าไปในเว็บไซต์ของภาคราชการใดแล้วบ้าง ภาคเอกชน ใดที่ยังไม่ได้เข้า 18.ขณะนี้กำลังเรียน อบรม ด้านใดเพิ่มเติมอยู่ 19.มีโครงการจะเรียนอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เมื่อไหร่ อย่างไร 20.ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายในชีวิตคุณ จะทำอะไรก่อน เรียงตามลำดับความสำคัญที่ต้องทำก่อน
20 ข้อนี้เมื่อทำเสร็จแล้ว บางที่คุณอาจเปลี่ยนความคิดไปตั้งต้นประกอบอาชีพเองก็เป็นได้ เพราะขณะนี้คนล้นงาน เราควรเตรียมตัวพร้อมเหมือนกับ Sniff and Scurry ใน Who Moved My Cheese ?ของ Dr.Spencer Johnson เพราะทุกวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ หรือที่ทำงานใหม่ของคุณก็กำลังเปลี่ยนสถานที่วางเนยแข็งใหม่แล้ว คุณต้องไล่ล่างาน และอนาคตเองแล้ว เพราะทั้งงานและอนาคตจะไม่ไล่ล่าคุณอย่างแน่นอน ตั้งสติแล้วลุยเลย ขอเอาใจช่วยทั้งบัณฑิตใหม่และผู้ที่ถึงเวลาจะโบกมือลางานเก่า
ใน The Next Society ของดรักเกอร์ที่เขียนไว้เมื่อปี 2003 นั้นได้กล่าวถึงสังคมในอนาคตว่า เป็นสังคมแห่งความรู้(Knowledge Society ) ที่ต้องการคนทำงานแบบ Knowledge workers หรือพนักงานมืออาชีพที่เก่งมีความสามารถพิเศษเฉพาะจากการศึกษาไม่ใช่จากการฝึกงาน ก็8'9hv'ลองทำ Mind Mapping เกี่ยวกับตัวเองดูก็จะรู้ว่าพร้อมสำหรับรอยต่อของสังคมปัจจุบันกับสังคมในอนาคตหรือไม่ /ระพี/updated090604
|