ค้นบ่อย
:
หางานบัญชี,
หางานธุรการ,
หางานจัดซื้อ,
หางานผู้จัดการ,
หางานขับรถ,
หางานบุคคล,
หางานคลังสินค้า,
หางานครู,
หางานวิศวกร,
หางานเขียนแบบ,
หางานคีย์ข้อมูล,
หางานการตลาด,
หางานโรงแรม,
หางานสิ่งแวดล้อม,
หางานคอมพิวเตอร์,
หางาน Programmer,
หางานประชาสัมพันธ์,
หางานช่าง,
หางานสถาปนิก |
เรื่อง
อินเลิฟ
เขียนโดย อัญชิสา ชนประเสริฐ
|
Rated:
by 34 users |
|
|
|
|
อินเลิฟ
ที่จริงการอยู่ลำพังคนเดียวก็ไม่เลวร้ายนักในหลายๆ เรื่อง แต่ที่ไม่เลวยิ่งกว่าก็คือ การได้มีใครสักคนอยู่ร่วมในชีวิตของเรา
บ่อยครั้งไม่ใช่หรือ... ที่คนเรามักเกิดอารมณ์อ่อนแอ ท้อแท้ เงียบเหงา หวาดกลัว ขาดความมั่นใจ มองขวามองซ้ายแล้วตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าทำไมเราถึงได้ไร้คนอยู่เป็นคู่คิด และโดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยวเช่นนี้ และอีกสารพัดอารมณ์ด้านลบที่จะคอยผุดคำถามขึ้นมา แล้วบั่นทอนความเชื่อมั่นในการอยู่คนเดียว
เมื่อคนเรามีคู่ครอง นั่นหมายถึงการมีบุคคลอีกคนหนึ่งเข้ามาอยู่เป็นหุ้นส่วนของชีวิต ซึ่งเอาเข้าจริงก็มีทั้งบรรยากาศที่ดี และที่เปลี่ยนไปจากความคุ้นเคยเดิมๆ
การที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรู้สึกว่าคนใกล้ตัวเขามีความสำคัญต่อเรา และเรามีความสำคัญต่อเขาเช่นกัน ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นได้จากการที่ทั้งคู่ได้ทบทวนความสัมพันธ์ที่มีต่อกันอย่างสม่ำเสมอ และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นทุกวัน หากรู้สึกว่าการอยู่ด้วยกันนั้นมีความหมาย และไม่คิดจะเปลี่ยนใจเพิ่มหุ้นเพื่อลดทุน หรือแยกย้ายกิจการ-บ้านใครบ้านมัน ทางใครทางมัน ชีวิตใครชีวิตมัน หันไปประกอบกิจการเล็กๆ ที่ชื่อ ตัวคนเดียว อย่างเดิมละก็ ต้องหมั่นเพิ่มพูนสัมพันธภาพ
ลองมาเพิ่มสัมพันธภาพให้มั่นคงมากขึ้นๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้ดีไหม 1. ทบทวนจุดที่เรายืนอยู่ และสัมพันธภาพที่ผูกพันเรา เพื่อเพิ่มความมั่นใจในที่อยู่ที่ยืนของวันนี้ ก่อนอื่นคุณจะต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าคุณชอบอะไร คุณทำอะไรได้ดีที่สุดถนัดที่สุด มีความสุขที่ได้ทำสิ่งนั้น ขณะนี้คุณมีบทบาทอะไรอยู่ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ให้ความสำคัญกับตัวเองโดยไม่รอให้ผู้อื่นเป็นผู้เสนอให้ สร้างความมั่นใจให้ตัวเองโดยบอกตนเองว่าได้ทำอย่างดีที่สุดในสถานการณ์ขณะนั้นแล้ว ยอมรับในทุกสิ่งที่กระทำอย่างกล้าหาญ คุณเป็นคนมีความสำคัญมากคนหนึ่งในบ้านหลังนี้ ทุกคนในบ้านยอมรับในความเป็นบุคคลของคุณ และตัวคุณเองยอมรับว่าคนอื่นในบ้านมีความสำคัญเช่นเดียวกับคุณ
2. จดจำเรื่องราวแห่งความสุขระหว่างเราทั้งสอง แค่นั้นยังไม่พอ ต้องหมั่นหาโอกาสรื้อฟื้นเรื่องราวนั้นขึ้นมาคุยกัน สัมผัสเรื่องราวแห่งความสุขนั้นอีกครั้ง ว่าครั้งนั้นใครทำอะไร คิดอย่างไรขณะนั้น และรู้สึกอย่างไร จะช่วยให้สามารถสร้างบรรยากาศวางแผนให้เกิดความสุขขึ้นมาอีกครั้ง ช่วงแห่งการรื้อฟื้นวันเวลาแห่งความสุขนี้จะไม่มีการตำหนิ กล่าวโทษ เรียกร้อง เพราะเราเป็นผู้สร้างความสุขให้ตัวเองไม่ใช่คู่สมรส หรือผู้อื่นที่อยู่ใกล้ชิด
3. ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน รับรู้ว่าเขากำลังทุกข์ด้วยความเห็นใจและพร้อมที่จะช่วยเหลือ ขณะเดียวกันก็รับรู้ว่าเราทั้งสองกำลังมีความสุข ให้การช่วยเหลือกันและกัน รู้สึกมีความสุขเมื่ออยู่ใกล้กัน หันหน้าคุยกัน มีการจับเข่าคุยกัน ปรึกษาหารือกันในเรื่องต่างๆ ของชีวิตได้ตลอดเวลา รู้สึกมีส่วนร่วมในการจัดการกับการดำเนินชีวิตของกันและกันได้อย่างมีขอบเขต เมื่อใดก็ตามที่ต้องอยู่ลำพังก็ยังรู้สึกมีความสุข มั่นคง ไม่ระแวงสงสัยในอีกฝ่าย
4. สามารถแบ่งปันความรู้สึกลึกๆ ให้กันและกันฟังได้ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ทุกเรื่องทุกราวเราสามารถบอกกันได้อย่างสนิทใจ โดยไม่มีความกลัวว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตำหนิ หัวเราะเยาะ หรือคิดในแง่ร้าย รู้สึกมั่นใจในอีกฝ่ายว่าเขาเป็นผู้ที่เข้าใจเรามากที่สุด
5. สามารถที่จะขอร้องให้เขาช่วยเหลือในเรื่องบางเรื่อง ไม่มีใครเก่งกล้าสามารถไปเสียทุกเรื่อง ดังนั้น เมื่อพบเจอกับเรื่องบางอย่างที่เกินกำลังที่เราจะจัดการได้ ต้องกล้าขอร้องให้อีกฝ่ายมีส่วนร่วม ให้เขาช่วยจัดการแทน โดยไม่ต้องกลัวเสียหน้า หรือเสียฟอร์ม และต้องกล้ายอมรับผลของการขอร้อง โดยเข้าใจว่าอะไรทำให้ผลออกมาเป็นเช่นนั้น ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ได้ใช้เหตุผลเหมาะสมซึ่งกันและกันแล้ว
6. รู้สึกประทับใจคู่สมรสหรือคนรัก และได้บอกความรู้สึกประทับใจนั้นแก่เขาแล้ว อย่าคิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย หรืออีกฝ่ายจะรู้สึกเบื่อ การได้ช่วยให้คู่ของเราเกิดความรู้สึกว่า เรายอมรับในสิ่งที่เขาทำด้วยความจริงใจ ทำให้เกิดความมั่นใจในกันและกัน และเชื่อมั่นในการใช้ชีวิตคู่มากยิ่งขึ้น
7. รู้สึกพอใจกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความเห็นพ้องต้องกัน และความสัมพันธ์ที่กลมเกลียวกันของเรา ข้อนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรอีกกระมัง เพราะคือบทสรุปของทั้งหมดทั้งปวงแห่งชีวิตคนสองคน
แถมท้ายด้วยข้อคิด 7 ข้อ จาก เดล คาร์เนกี้ ซึ่งเป็นนักพูด นักมนุษยสัมพันธ์ชาวอเมริกัน เขาเขียนไว้ในหนังสือ วิธีชนะมิตรและจูงใจคน ถึงหลัก 7 ประการ ที่จะช่วยให้ชีวิตสมรสมีความสุข คือ 1.อย่าเป็นคนจู้จี้ขี้เอาเรื่อง 2.อย่าพยายามเป็นเจ้าหัวใจของคู่สมรสของท่าน 3.อย่าตำหนิติเตียน 4.จงให้คำยกย่องสรรเสริญด้วยความสุจริตใจ 5.จงเอาใจใส่ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ 6.จงมีกิริยาวาจาสุภาพ อ่อนโยน 7.จงอ่านหนังสือดีๆ เกี่ยวกับกามารมณ์และการสมรส
คำแนะนำเหล่านี้มิใช่ข้อบังคับ มิได้มีใครบังคับให้ท่านทำ เว้นแต่ท่านเห็นดีเห็นงามว่าจะช่วยเพิ่มความแนบแน่นสนิทใจในใครบางคนและตัวท่าน เช่นนั้นก็พึงกระทำเถอะ
ถึงที่สุดแล้ว ไม่ว่าชีวิตเราแบบเดี่ยวๆ หรือชีวิตเราที่เป็นคู่ ต้นทุนและการใช้จ่ายล้วนอยู่ในการกำหนดควบคุมของตัวเราเองทั้งนั้น
| ที่มา : จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
|
|
|
|
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...
|
|
|
Knowledge Center |
|
|
knowledge
|
|
|
|
|
|
|
|
|