๒๐ แนวทาง: ในการให้สิ่งดี ๆ แก่พ่อแม่ สังคม และประเทศชาติ
จะให้สิ่งดี ๆ แก่ผู้มีพระคุณ สังคมและแก่ประเทศเป็นการตอบแทน ในฐานะที่ได้รับทุกสิ่งทุกอย่างมาจากสิ่งดังกล่าวข้างต้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นความอบอุ่น ความรักเสื้อผ้า ยารักษาโรค และสติปัญญา มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังและสติปัญญาของผู้ที่ส่งเสียและของตนเองจะเห็นว่านานมาก กว่าที่ลูกมนุษย์จะโต ต้องใช้เวลาพัฒนากันถึง ๒๐ - ๒๕ ปี แต่ถึงวันนี้บางคนคิดว่าก็ยังไม่พร้อมที่จะตอบแทน อาจเป็นเพราะมัวรอให้สำเร็จตามปณิธานหรือคำอธิษฐาน หรือบนบานกันเสียก่อนว่า ขอให้ได้มีงานทำเถอะ เงินเดือนงวดแรก จะให้แก่ผู้มีพระคุณ หรือเอาไปทำบุญ (บุญไม่มีให้อยากได้ต้องทำเอง)
แล้วนี่ถ้ายังไม่ได้งานทำล่ะ ชาตินี้เรามิสามารถจะทำสิ่งดี ๆ ได้เชียวหรือ ก็เรา เป็นลูกมนุษย์มีอาวุธเป็นปัญญา ตั้งสติแล้วเริ่มทำสิ่งดี ๆ อันดับแรก "ให้" แก่ตัวเองก่อนคือ "ให้ถือศีล ๕" ให้มั่น
ต่อด้วย"การให้"คนอื่น หรือการบริจาคทาน นั่นเอง ตั้งต้นให้เลย แบบใช้ปัญญานะ ไม่ใช่ให้ด้วยการบริจาคทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งจะได้รับผลบุญในชาติปัจจุบันทันตาเห็น ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า เพราะผู้ให้ก็เกิดความยินดี ผู้รับก็มีความยินดีในการรับ ทั้งต่อผู้คน สังคม และโลก เช่น
๑.อยู่บ้านหนึ่งวัน ทำอาหารง่าย ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้มีพระคุณ รับประทาน
๒.เสาร์อาทิตย์ ชวนคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย ถามคุย ถึงเรื่องต่าง ๆ อาจได้รับคำแนะนำดี ๆ หรือเข้าใจความรู้สึกของผู้สูงอายุมากขึ้น และท่านเองก็อาจเข้าใจเรามากขึ้นหลังเก็บความสงสัยในตัวคุณมานานๆ ชั่วอายุของเรา ฟังท่านพูดให้มากขึ้น อาจได้รับรู้ประวัติศาสตร์ครอบครัวอย่างที่คุณคาดไม่ถึงก็ได้ ๓.ช่วงเช้าหรือเย็น ชวนคุณพ่อหรือคุณแม่ไปเดินออกกำลังกาย ในสวนสาธารณะริมทางที่ร่มรื่น ชวนกันไปฟังดนตรีในสวน เดินเล่นตามริมแม่น้ำ รับรู้ปัญหาความต้องการจากท่านบ้าง หรือตามท่านไปบ้านเพื่อนหรือญาติคนอื่น ๆ ๔. ชวนคนในครอบครัวไปวัดพร้อมกันเพื่อ สมาทานศีลทำสมาธิ ตามโอกาสเหมาะสม โดยไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง ๕.ตั้งใจอยู่ติดบ้านสักหนึ่งอาทิตย์ ช่วยทำกิจวัตรต่าง ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่หรือพี่น้องเคยทำ เช่น รดน้ำต้นไม้ ตัดหญ้า เล็มต้นไม้ ล้างรถให้คุณพ่อ ซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่ชำรุด ขัดห้องน้ำ จัดห้องเก็บของใหม่ ขัดห้องน้ำ ซ่อมเสื้อ ขัดรองเท้าให้คุณพ่อคุณแม่ อาสาไปตลาด ๖.ตั้งต้นเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งได้และน่านับถือของพี่ ๆ น้อง ๆ และหลาน ๆ เช่น ซ่อมรถจักรยานให้ ชวนน้อง หลาน ๆ เตะบอล ชวนน้องไปดูหนังละคร ชวนพี่ไปดูภาพเขียน ๗.คัดเสื้อตัวเก่งให้น้องชาย บริจาคเสื้อผ้าให้กับบุคคลที่ต้องการ และด้อยโอกาสกว่าเรา ๘.เป็นตัวอย่างในบ้านกับการจัดการสิ่งแวดล้อมให้โลกน่าอยู่ เช่นจัดแยกขยะก่อนทิ้ง ๙.เขียนจดหมาย หรือทำคาร์ดขอบพระคุณครูบาอาจารย์ผู้ที่เป็นกำลังใจและหวังดีต่อเรา ๑๐.รับฟังเรื่องราวปัญหาของน้องชาย น้องสาวด้วยใจจริง และช่วยแนะนำด้วยใจจริงพร้อมที่จะยืนหยัดอยู่ข้างพวกเขา ๑๑.ให้เหล้า บุหรี่ หรือสิ่งเสพติดที่ดื่มหรือเสพแบบหัวราน้ำ เมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายในการฉลองต่อการเป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยปัญญา และสมบูรณ์ด้วยสุขภาพไม่มีโรคภัยและความเสื่อมต่าง ๆ มาเบียดเบียน อย่างมีสติสัมปชัญญะ ๑๒.เริ่มกราบ/ไหว้พระในบ้าน คือคุณพ่อคุณแม่หรือ ผู้มีพระคุณทุกครั้งที่ออกไปและกลับจากทำธุระนอกบ้าน ๑๓.เริ่มให้ความรัก แผ่เมตตาต่อทั้งตนเอง ผู้อื่นและสรรพสัตว์อย่างสม่ำเสมอก่อนออกจากบ้าน ๑๔.สละเวลาให้ตนเอง ในการวางแผนลำดับความสำคัญก่อนในการจัดการในชีวิต ประจำวัน อาทิตย์ เดือน และปี ๑๕.ให้อภัยและให้โอกาส ต่อเพื่อน คนที่ทำผิดต่อเราให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ๑๖. ทำประโยชน์ให้สังคม และชาติบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ๏เริ่มจากบริจาคเลือด อวัยวะ หรือร่างกายให้กับสภากาชาดไทย หรือแนะนำครอบครัวเข้าเป็นสมาชิกฯ (ดูได้ที่เว็บ www.redcross.or.th) และถ้าต้องการบริจาคดวงตาก็สามารถบริจาคออนไลน์ได้เลย ๏ให้คัดหนังสือต่างๆ ของตนเองบริจาคแก่ห้องสมุด ชุมชน หรือร่วมบริจาคกับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชนที่จัดขึ้น ๏สมัครเป็นสมาชิกหรือเป็นอาสาสมัครในองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อทำประโยชน์ต่อชุมชนและ สังคมส่วนรวมในเรื่องต่างๆ ๑๗.ให้ขอใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีทุกครั้งเมื่อซื้อสินค้า ๑๘.ให้ซื้อ/ใช้สินค้าและอาหารที่ผลิตใน ชุมชน หรือประเทศของเรา หรือที่เราอยู่ ๑๙.ให้ความรักอย่างมีสติ ให้ความเข้าใจ ความไว้วางใจ ต่อเพื่อนร่วมงาน เพื่อนบ้าน ๒๐.ให้ความเข้าใจในการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ระดับโลกด้วยก็จะเป็นการดีเพราะสังคมทุกวันนี้เป็นแบบสังคมพหุลักษณ์ เชื่อมโยงรับรู้ถึงกันเพียงเศษเสี้ยวของนาที แต่ให้เห็นโลกตามความเป็นจริงด้วยปัญญา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมชาติที่มีอยู่อย่างนั้น ไม่เข้าไปยึดถือในโลกทั้งปวง
"วันนี้เราทำประโยชน์อะไรให้ กับ สังคมและประเทศชาติแล้วหรือยัง ? " ถึงวัยอันควรที่ต้องถามตนเองกันแบบนี้เสียที คุณเองก็อาจเห็นวิธีง่าย ๆ ที่จะตอบแทนสังคมและประเทศ ได้ในรูปแบบของปัญญามากกว่านี้โดยไม่ต้องรอให้มีงานทำ หรือร่ำรวยเสียก่อนด้วยซ้ำ นาทีที่ปฏิบัตินาทีนั้นผลบุญก็เกิดแล้วถึงแม้ว่าจะไม่ต้องการก็ตาม และชาติเองก็อยู่ในสภาพที่ต้องการด้วยในขณะนี้ /12/07/04
|