ค้นบ่อย
:
หางานบัญชี,
หางานธุรการ,
หางานจัดซื้อ,
หางานผู้จัดการ,
หางานขับรถ,
หางานบุคคล,
หางานคลังสินค้า,
หางานครู,
หางานวิศวกร,
หางานเขียนแบบ,
หางานคีย์ข้อมูล,
หางานการตลาด,
หางานโรงแรม,
หางานสิ่งแวดล้อม,
หางานคอมพิวเตอร์,
หางาน Programmer,
หางานประชาสัมพันธ์,
หางานช่าง,
หางานสถาปนิก |
เรื่อง
สศก.รายงานผลกระทบการค้าเสรีกับสินค้าเกษตรไทย
เขียนโดย นาย บัญชา เกิดมีสุข
|
Rated:
by 6 users |
|
|
|
|
สศก.รายงานผลกระทบการค้าเสรีกับสินค้าเกษตรไทย
นางอัญชลี อุไรกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)เปิดเผยว่าภายหลังจากรัฐบาลมีนโยบาย ตั้งเขตการค้าเสรี (Free Trade Area : FTA) กับประเทศต่าง ๆ อาทิ จีน บาห์เรน อินเดีย ออสเตรเลีย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเปรู นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ทำการศึกษาถึงผลกระทบจากการทำเขตการค้าเสรีต่อ สินค้าเกษตรของไทย ซึ่งขณะนี้การเจรจากับประเทศต่างๆ มีความก้าวหน้าตามลำดับ เช่น เขตการค้าเสรีไทย-จีน ที่กำหนดให้ มีการลดภาษีสินค้ากลุ่มแรกครอบคลุมสินค้าเกษตรในตอนที่ 07-08 ที่เป็นสินค้าเกษตรประเภทผักและผลไม้ รวมผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลัง ซึ่งจะมีการลดภาษีระหว่างกันเหลือ 0% ทันที ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 โดยจะมีการลงนามระหว่างไทย-จีน ในช่วงที่ ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี (ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และคณะเยือนจีน ระหว่างวันที่ 15-19 มิถุนายน 2546 นี้ สำหรับการตั้ง เขตการค้าเสรีนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับข้อดีของเขตการค้าเสรีไทย-จีนนั้น เนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่ เมื่อเทียบกับ ตลาดอื่นๆ และไทย เนื่องจากมีประชากรจำนวนมาก ตลาดมีแนวโน้มสามารถรองรับมันสำปะหลังของไทยได้อีกมาก อีกทั้ง สามารถทดแทนตลาดอียู ซึ่งปัจจุบันส่งออกลดลง และไทยมีศักยภาพที่จะผลิตได้เพิ่มอีก ในปี 2544 และ 2545 ไทยสามารถ ส่งออกมันสำปะหลังอัดเม็ดและมันเส้นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท และในเดือนมกราคม เมษายน 2546 มีการส่งออก ไปจีนเพิ่ม 55% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนผลไม้เมืองร้อนไทยมีศักยภาพในการส่งออกได้หลายชนิด อาทิ ทุเรียน เงาะ ส้มโอ มังคุด โดยเฉพาะมังคุด นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเมืองไทยเคยลองชิมแล้วเป็นที่ชื่นชอบมาก เขตการค้าเสรีจึงเป็นแหล่ง รองรับผลไม้ไทยและมีโอกาสขยายตัวเพิ่มอีก
สำหรับข้อเสีย ในปัจจุบันมีการนำเข้าสินค้าเกษตรประเภทผักที่เป็นคู่แข่งกัน เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ใน ราคาถูกกว่า การเปิดเสรีจะกระทบต่อราคาภายในประเทศ แต่การบริโภคในประเทศมีจำนวนไม่มาก พื้นที่การปลูกน้อยและ คนไทยยังนิยมบริโภคกระเทียมไทยอยู่ เนื่องจากรสชาติ กลิ่น ดีกว่า และนิยมนำไปแปรรูป (เช่น กระเทียมดอง) ใช้ในการปรุง าหารไทย ดังนั้นกระเทียมไทยยังเป็นที่นิยมมากกว่ากระเทียมจีน อย่างไรก็ตามกระทรวงเกษตรฯ จะชี้แจงให้เกษตรกรเข้าใจ และให้เกษตรกรลดการปลูกเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นแทน โดยรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือต่อไป สำหรับผักผลไม้เมืองหนาวการ เปิดเสรีจะมีการนำเข้าเพิ่ม ซึ่งจีนจะได้ประโยชน์ในการขยายตลาดผลไม้เมืองหนาวด้วย
นางอัญชลี กล่าวอีกว่าการเปิดตลาดเสรีในสินค้าผักและผลไม้ระหว่างไทย-จีน เมื่อเปรียบเทียบขนาดของตลาดของ ทั้ง 2 ประเทศแล้ว ไทยจะได้ประโยชน์อย่างมากในสินค้าที่เกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามการค้าเสรีกับจีนต้องมีการเจรจาทบทวนข้อ ตกลงระหว่างกันในการใช้มาตรการด้านสุขอนามัยพืชในการตรวจโรคแมลง สารตกค้างในผักและผลไม้ ซึ่งถ้าจีนสามารถผ่อน คลายลงได้ก็จะเป็นโอกาสสำหรับผักผลไม้ยิ่งขึ้น
สำหรับการค้าเสรีกับประเทศอื่นๆ เช่น การค้าเสรีสินค้าเกษตรไทยกับออสเตรเลียนั้น ปัญหาสำคัญไม่ใช่อยู่ที่อัตรา ภาษีระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ที่จะลดให้แก่กัน เพราะปัจจุบันภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรของออสเตรเลียเกือบทั้งหมดเก็บภาษี 0% อยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีการเจรจาตกลงกัน คือ ปัญหาด้านสุขอนามัย ซึ่ง ออสเตรเลียกำหนดมาตรฐานค่อนข้างสูง มีวิธีตรวจสอบเข้ม งวด ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ กำ ลังเจรจาขอให้ออสเตรเลียเปิดตลาดนำเข้าผลไม้สำคัญของไทย เช่น มังคุด ทุเรียน ลำไย สับปะรด เป็นต้น รวมทั้งไก่ และกุ้ง ซึ่งถ้าสามารถตกลงกันได้และไม่นำมาตรการด้านสุขอนามัยมากีดกันแล้วไทยก็จะได้ประโยชน์ จากการเปิดการค้าเสรีกับออสเตรเลีย ซึ่งบางสินค้าที่เสียประโยชน์รัฐบาลจะได้หาทางช่วยเหลือต่อไป
ข่าว/ข้อมูล: สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร วันที่ 19 มิถุนายน 2546
แหล่งที่มา http://www.thaifta.com/
|
|
|
|
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...
|
|
|
Knowledge Center |
|
|
knowledge
|
|
|
|
|
|
|
|
|