ค้นบ่อย
:
หางานบัญชี,
หางานธุรการ,
หางานจัดซื้อ,
หางานผู้จัดการ,
หางานขับรถ,
หางานบุคคล,
หางานคลังสินค้า,
หางานครู,
หางานวิศวกร,
หางานเขียนแบบ,
หางานคีย์ข้อมูล,
หางานการตลาด,
หางานโรงแรม,
หางานสิ่งแวดล้อม,
หางานคอมพิวเตอร์,
หางาน Programmer,
หางานประชาสัมพันธ์,
หางานช่าง,
หางานสถาปนิก |
เรื่อง
การสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการเจรจาสินค้าเกษตรภายใต้ WTO และ FTA
เขียนโดย นาย บัญชา เกิดมีสุข
|
Rated:
by 0 users |
|
|
|
|
การสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการเจรจาสินค้าเกษตรภายใต้ WTO และ FTA ระหว่างวันที่ 27 - 28 พฤษภาคม 2547 ณ จังหวัดอุบลราชธานี
--------------------------
สรุปผลการสัมมนา ดังนี้
1. ผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วยผู้แทนกลุ่มเกษตรกร ชุมนุมสหกรณ์ หอการค้าจังหวัด และเจ้าหน้าที่ภาครัฐจากกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในส่วนกลางในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด อาทิ กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมปศุสัตว์ สำนักงานเกษตรจังหวัด สหกรณ์จังหวัด และปศุสัตว์จังหวัด เป็นต้น รวมทั้งสิ้น 150 คน
2. วัตถุประสงค์ของการสัมมนา เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับทราบถึงสาระสำคัญและความคืบหน้าของการเจรจาสินค้าเกษตรรอบใหม่ขององค์การการค้าโลก (WTO) และความคืบหน้าการเจรจาภายใต้กรอบการจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับประเทศคู่ค้าต่างๆ ที่ได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพื่อกำหนดเป็นท่าทีเบื้องต้นของไทยในการเจรจาเปิดเสรีสินค้าเกษตรเป็นรายสินค้าสำคัญของภาคเหนือ อาทิ ข้าว อ้อย น้ำตาล สินค้าปศุสัตว์(เช่น ไก่ โคเนื้อ สุกร สินค้านม) วัตถุดิบอาหารสัตว์ ผักและผลไม้สดและแปรรูป รวมถึงมันสำปะหลัง เป็นต้น
3. สรุปข้อคิดเห็นผู้เข้าร่วมสัมมนา สนับสนุนการลดเลิกภาษีนำเข้าและปริมาณโควตา ลดการอุดหนุนการผลิตภายในที่รัฐให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และยกเลิกการอุดหนุนส่งออกที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดโลกตกต่ำ อย่างไรก็ดี ในส่วนของการเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี แม้ว่าเกษตรไทยจะสนับสนุนการเปิดเสรี แต่ก็มีสินค้าบางรายการ อาทิ สินค้าปศุสัตว์ และสินค้านมและผลิตภัณฑ์นม ที่ต้องการระยะเวลาปรับตัวอีกระยะหนึ่งเพื่อให้มีความพร้อมก่อนการเปิดเสรีเต็มรูปแบบต่อไป
ในการนี้ เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังได้เสนอแนะความต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาล ที่สำคัญได้แก่ การลดต้นทุนการผลิต อาทิ การปรับปรุงพันธ์ การให้เงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ การแจกจ่ายวัคซีนและยารักษาโรค การสร้างลานตากมันสำปะหลัง ห้องเย็นเก็บสินค้า การหาตลาดส่งออกใหม่ๆ การสร้างค่านิยมการบริโภคส้นค้าไทย การให้ความรู้เกี่ยวกับการตลาดและการบริหารจัดการแก่เกษตรกร รวมถึงการกระชับความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นับเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีความสามารถในการผลิตสินค้าเพื่อขายแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น
4. ประเมินผลการสัมมนา ผู้เข้าร่วมสัมมนากว่าร้อยละ 89 เห็นว่าสินค้าเกษตรของไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและพร้อมที่จะแข่งขันในตลาดโลกได้ ร้อยละ 84.62 เห็นด้วยว่าการเจรจาเปิดเสรีการค้าสินค้าเกษตรจะช่วยให้การส่งออกขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 80 เห็นว่าไทยควรผลักดันการเจรจาเปิดเสรีสินค้าเกษตรต่อไป ร้อยละ 53 ให้ความสำคัญกับการเจรจาลดภาษีและขยายโควตาภาษีเป็นลำดับแรก ร้อยละ 17 ให้ความสำคัญกับการเจรจาลดการอุดหนุนส่งออก ร้อยละ 16.92 ต้องการให้ประเทศกำลังพัฒนาได้สิทธิในเรื่องความยืดหยุ่นและข้อยกเว้นพิเศษ และร้อยละ 12.5 ให้ความสำคัญกับการเจรจาลดการอุดหนุนภายใน
------------------------------
แหล่งที่มา http://www.thaifta.com/
|
|
|
|
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...
|
|
|
Knowledge Center |
|
|
knowledge
|
|
|
|
|
|
|
|
|