การทำงานของเด็กใหม่
ปัญหาของเด็กใหม่ที่สำคัญคือ ไม่รู้จักวิธีการติดต่อเรื่องงานกับผู้อื่น ใช้คำพูดไม่ถูกต้อง รวมทั้งแสดงท่าทีที่ไม่เหมาะสมต่อบุคคลที่ไปขอความช่วยเหลือ อันนี้อันตรายยิ่ง
แค่คิดถึงหลักง่ายๆ ถ้ามีคนมาขอเราให้ช่วยทำบางอย่างให้ เราย่อมต้องการให้คนคนนั้นมาพูดขอร้องกับเราดีๆ ไม่ใช่มาพูดสั่งๆ แถมตะคอกใส่อีก
ฉะนั้นเด็กใหม่ทุกคนพึงปฏิบัติด้วยการเป็นคนอ่อนน้อม พูดจามีความสุภาพ รู้จักการเป็นผู้น้อย รู้จักให้ความเคารพกับคนที่ไปติดต่อ
ก่อนจะเดินเข้าไปติดต่อใครก็ตาม ลองสังเกตสภาพบรรยากาศในที่ทำงานขณะนั้นว่า มันยุ่งเหยิง หรือสงบปกติดีหรือเปล่า ใบหน้าผู้คนในนั้นแฝงรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะสอดแทรกการพูดคุยบ้างไหม ถ้าสถานการณ์รอบด้านดี ก็มั่นใจได้เลยว่าไม่น่ามีปัญหา
แต่ พึงระลึกไว้นะ ไม่มีใครอยากเพิ่มงานให้ตนเองหรอก ฉะนั้นจงให้เวลาคนอื่นทำงานบ้าง ไม่ควรไปเร่งรีบจะเอาด่วน ไม่มีใครอยากมีเจ้านายมากกกว่าหนึ่งคน และต้องเตรียมใจรับกับสภาพการโต้ต้อบกลับที่อาจฉุนเฉียว รำคาญได้
รูปแบบการติดต่องานของเด็กใหม่ ไม่ควรสร้างความร้อนรนแก่ใคร ไม่ควรเลยที่จะนำขยะไปหมักหมมไว้ที่คนอื่น ควรแสดงความกระตือรือร้นอย่างรู้จังหวะ เพื่อให้ผู้ที่เราติดต่อด้วย เห็นความใฝ่เรียนรู้
หัดพูดชวนคุยถึงเรื่องดินฟ้าอากาศหรือ เรื่องสร้างสรรค์อื่นๆ ที่เป็นความชอบของผู้ที่เราไปติดต่อ คุยไถ่ถามเป็นการเปิดประเด็นการสนทนาที่เป็นธรรมชาติและเป็นมิตร ซึ่งดูดีกว่าการเข้าไปพูดคุยโดยมีแต่เรื่องงานเท่านั้น จึงจะคุยกับเขาได้
การเข้าไปแบบเสมือนไม่มีปัญหา นั่นแหละเป็นหัวใจที่ดีที่สุดในการไปติดต่องานกับใคร เพราะไม่มีใครอยากร้อนรุ่มใจ ไม่มีใครอยากทนทุกข์ ฉะนั้นจงแปรความกระวนกระวายใจ ความร้อนร้นในใจตนเอง ให้เป็นสิ่งที่เย็นลง ผ่อนคลาย ค่อยๆ คิดค่อยๆ หาทางแก้
จงมองในแง่ดีว่า การไปติดต่องาน การขอความช่วยเหลือจากคนอื่น มันเป็นการฝึกตนเองให้รู้จักสังเกตผู้อื่น มันเป็นศาสตร์และศิลป์ในการเจรจาเพื่อให้เขาช่วยเหลืออย่างนุ่มนวล เพราะคนไทยเป็นคนเจ้าอารมณ์ รักความสนุกรักความสบาย ก็ควรที่จะทำตัวสบายๆ ไม่ต้องซีเรียสจนเกินไป แล้วคำพูดคำจามันจะออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งกระด้างอย่างการสั่งใคร.