หินสีกับความเชื่อ"...อย่าเพิ่งเบื่อแล้วบอกว่า "เชย"
เพราะไม่ได้มาคุยเรื่องหินสีกับความเชื่อเรื่องโชคลางว่า "คนเกิดวันไหนต้องใส่อะไรถึงจะโชคดี" !!แต่เพราะวันนี้คนหันมาสนใจเรื่องหินสีกับความเชื่อในการรักษาโรคต่างหาก... คงไม่น่าเชื่อว่าหินก้อนเล็กๆ จะรักษาโรคภัยต่างๆ ของมนุษย์ได้ อ่านแล้วขอให้ตัดสินใจกันเอง นำมาเล่าให้ฟังเพื่อความรู้หลากหลาย
พ.ญ.ลลิตา ธีรศิริ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหินสีกับการรักษาโรคแห่งศูนย์ธรรมชาติบำบัดบัลวี บอกว่า เรื่องนี้ยังไม่มีทดลองแบบวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถบอกได้ว่ามีสารหลั่งออกมาจากหินเพื่อรักษาโรคจริงหรือไม่ แต่จากประสบการณ์ในการรักษาคนไข้และตัวเอง รักษาได้จริงๆ "ตามความเชื่อคนโบราณ เขาบอกว่ามนุษย์ประกอบด้วยเซลล์หลายๆ เซลล์ที่ผลิตพลังงานออกมา ทำให้ตัวมนุษย์แวดล้อมไปด้วยพลังงาน ถ้าไม่สบายแสดงว่ามีพลังงานบางส่วนมันพร่องไป ขณะเดียวกัน คนโบราณเชื่อว่าธรรมชาติก็มีพลังงาน โดยเฉพาะหิน จึงสามารถนำหินมาเพิ่มพลังได้ ถ้าคนเคยหัดจี้กง เล่นกับพลัง จะรู้ว่าหินบางชนิดมีไฟฟ้าสถิตในมันเอง"
หินสีที่ใช้รักษาโรค เริ่มมาจาก ควอตซ์ใสๆ เหมือนกระจก แต่พอมีแร่ธาตุอื่นปนลงไป มันก็จะเปลี่ยนสีไปจากเดิม ซึ่งเมื่อสีเปลี่ยนคุณสมบัติในการรักษาโรคก็เปลี่ยนด้วย เริ่มจากควอตซ์จะใช้ในการเพิ่มพลัง ใช้ในการทำมีดหมอสมัยก่อนหมอลลิตาจำแนกให้ว่าหินชนิดใดรักษาโรคใด |
|
อเมทิสต์-หินสีม่วง จากความรู้หลายร้อยหลายพันปี ใช้รักษาโรคนอนไม่หลับ ประสาทเสื่อม จิตใจกระวนกระวาย ตื่นเต้น คุมสติไม่ได้ เพราะอเมทิสต์จะมีเส้นแรงเหนี่ยวนำทำให้ระบบประสาทสงบลง คนที่ตื่นเต้นสวมใส่สร้อยแล้วก็จะสงบลง แต่เวลานอนต้องเอาไว้ใต้หมอนจะทำให้หลับสบายขึ้น ซึ่งหมอเคยทดลองรักษาคนไข้ที่เป็นนักธุรกิจที่นอนไม่หลับ ระหว่างต้องไปประชุมที่อเมริกา พอได้ใส่สร้อยอเมทิสต์ ผสมกับการฝังเข็มให้กินวิตามิน เขาก็เริ่มนอนได้ |
|
ทัวร์มาลีน-หิน 5 สี (เหลือง ดำ แดง ชมพู สีอำพัน เขียว) เป็นหินที่ดีที่สุด มีพลังมากสุด รักษาอาการยุบบวม แก้อาการอักเสบ รักษาโรคเจ็บคอได้ดี ด้วยการทำเป็นสร้อยคอและปล่อยให้เส้นแรงพลังพุ่งเข้าสู่คอเพื่อซับไอโรคออกมา ทำให้อาการบวมในคอ อาการระคายคอลดลง ตอนไปเมืองจีนไกด์นำเที่ยวเกิดเจ็บคอ เสียงแหบ ไม่มีเสียง หมอให้พัก 1 ชั่วโมงแล้วเอาสร้อยทัวร์มาลีนไปใส่อยู่ชั่วโมงครึ่ง ปรากฏว่าเขาลุกขึ้นมาพูดใหม่ คนทั้งรถทึ่งกันหมด เพราะไม่มีเสียงแล้วนะสามารถพูดได้เป็นปกติ พอเขาถอดคืนตอนกล่าวลากันเสียงเขาก็หายไปหมดเลย |
|
คามิเลียน คนไทยรู้จักกันในนาม "หมาเหนา" หรือ "หมาล่า" ลักษณะหินขุ่นสีเป็นสีน้ำผึ้ง ใช้แก้ไอ คล้ายกับทัวร์มาลีน ต่างกันตรงที่แก้อาการยุบบวมไม่ได้ เคยทดลองในคนไข้ปรากฏว่าก็ได้ผล |
|
ซิทริน มีสีเหลือง คล้ายๆ บุษราคัม แต่เนื้อหินอ่อนกว่าบุษราคัม สามารถแก้ท้องอืด ด้วยการเอาไปแช่น้ำแล้วดื่ม หรือเป็นเข็มขัดคาดเอวใส่ติดเนื้อไว้ก็หายได้เหมือนกัน นอกจากนี้เขายังบันทึกไว้ว่ามันแก้โรคตับ ซึ่งหมอกำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ว่าได้จริงหรือไม่ |
|
ทับทิม ใช้ลดไข้ สามารถลดได้ประมาณ 0.5-0.7 องศาเซลเซียส มีความเชื่อตั้งแต่โบราณ เวลาเด็กมีไข้ แล้วคุณมีโคตรทับทิมอยู่ในบ้าน เอาใส่มือไว้ให้เด็กเล็กกำ ไข้จะลด |
|
เรด แจซเปอร์ แก้อาการเมารถ เมาเรือ มีลักษณะเป็นหินสีขุ่นก้อนกลมๆ สีแดงๆ ชมพูๆ ช่วยไม่เมา ไม่คลื่นไส้ด้วย |
หลังจากแจกแจงลักษณะหินและคุณสมบัติในการรักษาโรคของหินแต่ละชนิดแล้ว พ.ญ.ลลิตา เสริมว่า คนไทยตอนนี้สนใจเรื่องพวกนี้เยอะคนที่ขายหินสีให้หมอ บอกว่าตอนนี้ราคาหินสีแพงเป็น 2 เท่า อย่างไหมทอง จะมีลักษณะเป็นควอตซ์แล้วมีเส้นๆ สีทองอยู่ข้างใน ใส่เป็นสร้อย กำไล ไว้รักษาพวกอาการเข่าอักเสบหรือเมื่อยๆ ชาวบ้านเขาบอกว่าถ้าใส่แล้วเส้นทองเพิ่มขึ้นจะรวย ก็ใส่กันใหญ่เลย ตอนนี้แพงมาก
"ต้องบอกว่าความเชื่อนี้มีมาตั้งแต่อดีต เห็นได้ว่าข้าราชบริพารในราชสำนักเขาก็นิยมใส่แหวนนพเก้า หินเก้าสีครอบจักรวาล สามารถกันเสนียดได้ ถ้าอยู่ใกล้เจ้าใกล้นายบารมีสูงส่ง ถ้าพลังดีเข้ามาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพลังลบเข้ามา คนธรรมดาจะต้านไม่ไหว จึงใช้นพเก้าเป็นเครื่องกั้น หรือหากรับใช้ใกล้ชิดอย่างพวกคุณหญิงคุณนาย จะใส่แหวนยอด ใส่ทับทรวง กลุ่มใช้แรงงาน แม่ครัว เขาจะใส่แหวนพิรอด เพื่อแคล้วคลาดปลอดภัย" |
จากนั้นหมอลลิตาบอกวิธีการใส่หินสีอย่างถูกต้องในการรักษาโรคอีกด้วยว่า ต้องใส่หินสีกับทอง เงิน ทองแดง เม็ดเล็กเม็ดใหญ่ไม่สำคัญ เพราะพลังอะไรก็ตามที่กำเนิดขึ้นมันต้องมีการประจุพลังก่อนเอามาใช้ เหมือนพระเครื่องที่เกจิอาจารย์ 700-800 รูปมาสวดให้ประจุพลังอัดไว้และส่วนมากเขาเลี่ยมทองกันเพื่อเป็นประจุพลังแล้วเอาไปใช้ประโยชน์ทีหลัง เมื่อใส่แล้วต้องล้างด้วย วิธีเมตาฟิสิกส์ ไม่ใช่ล้างน้ำ เพราะทั้งหมดนี้เป็นเส้นพลัง เวลาใช้ไปมันจะดูดซับไอโรคไว้ในตัว พลังจะหมด ไม่มีพลังรักษาต่ออีก ก็ต้องไปเรียงพลังมันใหม่ นั่นคือเอาไปแช่น้ำเกลือเข้มข้น (น้ำ 1 ลิตร ละลายเกลือ 2 ขีด) และถ้าไม่มีทองก็เอาสร้อยแช่ได้เลย แต่ถ้ามีทองเราต้องเอาสร้อยใส่แก้วเปล่าๆ แล้วค่อยเอาแก้วไปแช่น้ำเกลืออีกที และหินที่ใช้รักษาโรคต้องล้างทุกคืน รวมทั้งไม่ใส่นอน ควรใส่ตอนกลางวัน เพื่อสร้างความสมดุลของพลัง ถ้าใส่นอนอาจทำให้ร่างกายรับยาเกินขนาด เป็นประโยชน์ของหิน ที่ใช้วิจารญาณตรึกตรองหรือทดลองดูเอา... |
หนังสือพิมพ์ มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 30 มกราคม 2547
งานห้องสมุด กลุ่มพัฒนาวิชาการ โรงพยาบาลเลิดสิน |