เจ้าของโรงงาน กับ งบต้นทุนผลิต (1)
จากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการโรงงานผลิตมาหลายโรงแล้วนั้น ทำให้เห็นว่าผู้ประกอบการโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำงบต้นทุนผลิต ทำให้ไม่รู้ต้นทุนการผลิต และต้นทุนขายที่แท้จริงของกิจการ
งบการเงินและตัวเลขทางบัญชีต่างๆ เจ้าของโรงงานก็ใช้วิธีจ้างสำนักงานบัญชีทำให้ แน่นอนตัวเลขที่สำนักงานบัญชีทำให้นั้น จะถูกนำไปใช้ประโยชน์ในลักษณะของการยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม และยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี
แต่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ด้านสะท้อนผลกำไรที่แท้จริงของกิจการ วัดผลการดำเนินงานของกิจการ หรือไม่สามารถใช้ในการวางแผนบริหารงานต่างๆได้เลย
ความจำเป็นของการทำงบต้นทุนผลิต
ยังมีผู้ประกอบการอีกมากที่วัดผลเอาจาก กระแสเงินสดที่ยังหมุนคล่อง ก็แปลว่า กิจการยังดีอยู่
การวัดจากเงินที่ยังคล่องมืออยู่นั้นทำให้ผู้ประกอบการดูไม่ออกว่า แท้ที่จริงแล้วเงินที่ยังหมุนคล่องนั้น ค่อยๆถูกกินทุนเข้าไปหรือเปล่า หรือว่างอกเงยขึ้นกันแน่
ซึ่งกว่าจะมองออก กว่าจะรู้ตัว เวลาก็ผ่านเลยไป ถ้าเป็นกรณีที่เงินงอกเงยขึ้น ก็ดีไป แต่ถ้าเป็นตรงกันข้าม คงไม่ดีต่อผู้ประกอบการเป็นแน่
การทำงานทุกอย่างควรอย่างยิ่งที่จะมีการวัดผล เพื่อให้สามารถประเมินตนเองได้ การเรียนยังต้องมีการสอบเพื่อวัดผลว่าเรียนรู้ไปได้ระดับไหน แล้วทำไมการทำธุรกิจ จะละเลยการวัดผลไปเสียได้
การเป็นโรงงานผลิตตัววัดผลในทางบัญชี คือ การทำงบต้นทุนผลิต ตัวอย่างการใช้งาน เช่น โรงงานพลาสติก ทำงบต้นทุนผลิตออกมาได้ ว่า ต้นทุนผลิตเดือน 10 สูงกว่า ต้นทุนผลิตในเดือน 9 ทั้งที่ผลิตได้จำนวนสินค้าเท่าเดิม ตัวเลขต้นทุนผลิตสามารถนำไปวิเคราะห์ หาที่มาของความผิดปกตินั้นได้ อาจจะเป็นเพราะ ราคาต่อหน่วยของเม็ดพลาสติกปรับสูงขึ้นมากอย่างรวดเร็ว เป็นต้น หรืออาจจะวิเคราะห์อ่านได้จากตัวเลขทางบัญชี ที่ปรากฏในงบนั้นๆ
ทั้งนี้ ทั้งนั้น ข้อควรระวังในการนำตัวเลขมาใช้ ต้องแน่ใจว่าที่มาของตัวเลขนั้นครบตาม 3 ข้อต่อไปนี้
1. เป็นตัวเลขที่เก็บรวบรวมจากการเกิดรายการค้า อย่างครบถ้วน ไม่ขาดหก ตกหล่น หรือซ้ำซ้อน เกินมา
2. นำข้อมูลจากข้อ 1 มาแยกแยะ คำนวณ และ ลงบัญชีอย่างถูกต้องตามหลักการบัญชีต้นทุน
3. ออกรายงานต้นทุนผลิต จากข้อมูล ข้อ1 และ 2