ตอนที่2 บ้านแห่งหุบเขา
วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งเหมือนปกติธรรมดา เวลาของการทำงานวันนี้มันช่างแลดูเชื่องช้าเสียเหลือเกิน ฉันแหงนดูหน้านาฬิกาเป็นครั้งที่ 10 ภายในเวลาไม่กี่นาที
. ก็วันนี้ว่างนี่นา ทำไงดี ตั้งแต่เช้าแล้ว
.. ดับเบิ้ลคลิ้กไอคอนเขียวๆ มุมขวาล่างของจอคอมพิวเตอร์ ที่ชาวออนไลน์เรียกกันว่า MSN ขึ้นมา
หาใครซักคนเป็นเพื่อนคุยออนไลน์ดีกว่า
.
ทำไมไม่มีใครโผล่มาเสนอหน้าบ้างเลยนะ
. แย่จัง
ไม่ ไม่ ฉันยังไม่ละความพยายาม ไม่มีคนเก่าๆ ในลิสต์รายชื่อให้คุย ก็หาคนใหม่ๆ มาแอดเพิ่มสิ
ฮา ฮา ฮา คิดได้ไง ฉลาดจริงๆ เลยเรา
แต่แล้วฉันก็ต้องล้มเลิกความคิด เนื่องจากไม่อยากให้ในลิสต์ตัวเองเลอะเทอะเต็มไปด้วยอีเมล์แอดเดสของคนไม่รู้จัก และนั่นฉันก็ต้องพาตัวเองกลับมาเหงาอีกครั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
. 1 ชั่วโมงผ่านไป
. 2 ชั่วโมง กำลังจะผ่าน ฉันก็ยังคงอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตัวเดิม
วันนี้จะไม่มีอะไรให้ฉันต้องก้มหน้าก้มตาขมักเขม่นทำ ทำ แล้วก็ทำเลยหรือไง
.. ว่าเข้านั้น ในที่สุดก็ยอมแพ้ตัวเองจนได้
ฮัลโหล
. ไหน เอาต้นฉบับมาอ่านซะดี ดี เขียนถึงไหนแล้ว เสียงแว่วตามสายจากเพื่อนคนไกล ทำเอาฉันตื่นจากความเหงาได้เป็นปลิดทิ้ง
.
ตายจริง นี่ฉันไปโม้อะไรไว้เยอะขนาดนั้นเชียวหรือ ต้นฉบับ 5555 ฉบับไหนล่ะ มีตั้งหลายฉบับ แล้วแต่ละฉบับก็ไม่มีบทจบสักเรื่องหนึ่ง ให้ตายสิ ฉันเริ่มมัน แต่ไม่นำพาให้มันจบ
นี่ฉันทำแบบนี้กับงานเขียนตัวเองได้อย่างไร ใช้ไม่ได้ๆ
.. ทันทีที่เพื่อนตัวป่วนโทรมากระเซ้าเย้าแหย่ ตามประสาคนว่างงาน ความคิดพุ่งปี้ดถึงขีดสุด แทนที่จะนั่งจับเจ่าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อไปโดยปล่อยให้เวลาหมดลงเรื่อยๆ ฉันรีบกระโดดลุกขึ้นจากโต๊ะ มุ่งตรงไปยังห้องส่วนตัวของตัวเองทันที
จากนาทีนั้นเป็นต้นมา ฉันก็เริ่มเล่า แล้วก็เล่าๆ ๆ
. จนลืมเวลาไปชั่วขณะ
.
วันนั้น
.จำไม่ได้เสียแล้วสิ ว่ามันจะต้องตัดเข้าฉากไปปีไหนของชีวิตมหาวิทยาลัย ฉันยังสับสนอยู่ระหว่าง เด็กปีหนึ่ง น้องใหม่ที่กำลังร้ายสุด สุด กับรุ่นพี่ปีสอง (ที่ร้ายไม่เบา)
.. ที่จริงแล้วหากฉันแค่เพียงยกหูโทรศัพท์ แล้วออกปากถามเพื่อนเจ้ากรรม เจ้าของเรื่องที่กำลังจะเขียนนี้โดยเฉพาะ ว่าตอนนั้นเป็นช่วงไหนกันแน่ ฉันก็สามารถ รู้คำตอบที่แท้จริงแล้ว
แต่ฉันก็มีเหตุผลที่มีน้ำหนักเพียงพอ ที่ไม่สามารถเอ่ยปากถามเพื่อนคนนั้นได้
ภายหลังช่วงเวลาแห่งการทรมาน กับข้อสอบปลายภาควันสุดท้ายได้จบลง
.. นั่นคือสัญญาณบอกว่า หน้าที่ของพวกเราสำเร็จไปแล้วอย่างหนึ่ง
และในระหว่างช่วงเวลาแห่งการปลดปล่อยช่วงจังหวะนั้นเอง เสียงเจ้าเครื่องมือสื่อสารยอดฮิตในสมัยนั้น ส่งเสียงครางกระหึ่ม และแรงสั่นไหวสะเทือน จนฉันเองถึงกับสะดุ้งสุดตัว ฉันล้วงหยิบเจ้าตัวที่เรียกว่า เพจเจอร์ อออกมาจากกระเป๋าข้างตัว ตั้งท่าอ่านตัวอักษรในกล่องสื่อสารนั้นอย่างลุ้นตัวโก่ง ฝากถึงโก้
พ่อเสียแล้ว โทรกลับบ้านด่วน
และนั่นคือเหตุผลที่ทำไมวันนี้ฉันถึงไม่สามารถหยิบโทรศัพท์กริ้งกร้างไปถาม นายโก้ เพื่อนเจ้าของเรื่องได้
. มีเหตุผล
มีเหตุผล
. ฉันไม่สามารถบรรยายได้ว่าเวลานั้น บรรดาเพื่อนๆ สนิทมิตรสหายเช่นพวกเรา ของนายโก้ ต้องทำตัวกันอย่างไร
. พวกเราตั้งตัวกันเกือบไม่ทัน หรือแทบไม่มีเวลาคิดเลยก็ว่าได้ มารู้ตัวกันอีกครั้ง พวกเราก็นั่งหน้าสลอนอยู่บนรถตู้คันใหญ่ จุดหมายปลายทางคือจังหวัดระนอง จังหวัดแห่งหุบเขาภาคใต้ตอนบน บ้านเกิดของเพื่อนเราเจ้าของเรื่อง
. คนนี้
เราตั้งต้นเดินทางจากตัวจังหวัดตรัง และมาแวะพักผ่อนค้างคืนในตัวเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีเพื่อนเจ้าบ้านตัวดีอุปการะคุณทั้งที่หลับที่นอน และอาหารการกิน (เอาไว้เรื่องการผจญภัยในจังหวัดนี้ ค่อยเล่ากันต่อไป เห็นจะดีกว่า เพราะไหนๆ ตอนนี้ก็ตั้งใจไว้แล้ว ว่าต้องยกให้เจ้าของเรื่องเป็นพระเอกคนเดียว)
..ระยะทางจากจังหวัดสุราษฏร์ธานีไปยังจังหวัดระนอง หากดูตามแผนที่ประเทศไทยมันไม่ได้ไกลกันมากนักเลย แต่ฉันกลับรู้สึกว่า มันช่างยาวไกลเสียเหลือเกิน ไหนจะเส้นทางอันแสนจะคดเคี้ยวที่ไต่ขึ้นๆ ลง ๆ ขนานไปกับภูเขา มันกลับช่วยเพิ่มระยะทางการไปถึงจุดหมายได้เป็นพันๆ กิโลเมตร
. ตอนนั้นฉันคิดแบบนั้น
.. เพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่ว่าเก่งฉกาจ เดินทางมานักต่อนักก็ต้องยอมยกธงขาวยอมแพ้ในที่สุด กับระยะทางอันแสนคดเคี้ยว หักมุมซ้ายที ขวาที เช่นนี้ หากไม่คิดถึงเส้นทางอันวิบากนี้แล้ว วิวข้างทางทั้งสองฝั่งอาจช่วยให้อาการเราดีขึ้นได้ทีเดียว
. ยอดหญ้าคาสีเหลืองอ่อนที่พริ้วไหวลู่ไปตามทิศทางลม อากาศเย็นๆ ของลมที่ปะทะผิวหน้า และกลิ่นหอมของสายลม ช่างน่าหลงไหลยิ่งนัก นี่ถ้าหากฉันไม่กำลังมีอาการพะอืดพะอมและกำลังต่อสู้อยู่กับการชนะใจตัวเอง กับเส้นทางสายนี้ ฉันคงพยายามที่จะชะโงกหน้าเผชิญกับบรรยากาศภายนอกโดยไม่ต้องมานั่งดมยาลม ยาหม่องอยู่ในรถอย่างเช่นเวลานั้น เป็นแน่
รถพาพวกเรามาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย หลังจากการลำเลียงสัมภาระทั้งหมดขึ้นไปไว้ในห้อง พวกเราก็รีบโยกย้ายตัวเองลงมาข้างล่างของบ้าน
. ฉันหยุดที่จะชื่นชมบ้านน้อยแห่งหุบเขา หลังเล็กหลังนี้ไม่ได้ ตัวบ้านที่สร้างบนเนินเขา ติดกับถนนสายเล็กๆ ที่ตลอดเส้นทางเป็นทางลาดสูงขึ้นสู่ภูเขา ทำมุมไม่น้อยกว่า 30 องศาไปตลอดสาย อีกฝั่งของถนนเส้นเล็กนี้ เป็นภูเขาและธารน้ำตก ผาหินตระหง่านสวยงาม แลดูช่างยั่วยวนต่อการเข้าไปสัมผัสเสียเหลือเกิน
ความคิดเห็นของคุณกับบทความนี้
...