ช่วงนี้อากาศบ้านเรา เปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก ทำให้หลายคนโดนหวัดถามหา แต่แค่อาการหวัดคงไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ถ้าส่วนอื่นในร่างกายของเรา ป่วยนี่สิค่ะแย่เลย ผู้หญิงอย่างเรา เรื่องรักษาความสะอาดตามร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะตามจุดซ่อนเร้น มักจะต้องพบเจอกับความอับชื้นได้ง่าย เผลอๆๆ เพื่อนๆอาจจะต้อง โดน เจ้าเชื้อราในช่องคลอดมาทักทาย จ๊ะเอ๋แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ที่รู้แน่ๆๆเอาตอนอาการคันมันเริ่มส่งสัญญาณให้เรารู้ซะแล้วค่ะ
พูดไปถึงเรื่อง เชื้อราในช่องคลอด มันเป็นยังไง แล้ว เราจะดูแลรักษายังไง กับมันดี หล่ะเนี่ย คลังปัญญาไทยได้ให้ความรู้และคำแนะนำดีดีไว้หลายอย่างเลยค่ะ
เชื้อราในช่องคลอด (Vaginal candidiasis)
จากสถิติพบว่าผู้หญิงในยุคปัจจุบันเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอดเพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีต ซึ่งเป็นหนึ่งโรคที่เติบโตพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆ ที่ก้าวหน้าขึ้น
[แก้ไข] เชื้อสาเหตุ
เกิดจากเชื้อรากลุ่ม Candida ร้อยละ 80 - 90 เป็น Candida albicans ระยะฟักตัวคือ 1 - 4 วัน
ลักษณะทางคลินิก
มีอาการระคายเคืองบริเวณช่องคลอด และหรือ ปากช่องคลอด
ลักษณะตกขาวขุ่นจับเป็นก้อน (curd like) และติดแน่นกับผนังช่องคลอด
อาจมีอาการปัสสาวแสบขัด เจ็บขณะร่วมเพศ บวม แดงบริเวณอวัยวะเพศภายนอก
บางรายอาจสังเกตพบว่าผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดแตกเป็นร่องที่เรียกว่า vulva fissure
ปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ โรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดี การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน การตั้งครรภ์ การได้ยากดภูมิต้านทานของร่างกาย การติดเชื้อHIV การใช้กางเกงในที่ทำด้วยใยสังเคราะห์ และการดูแลความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี การใช้ยาสวนล้างช่องคลอด เป็นต้น
ข้อควรรู้เกี่ยวกับเชื้อราในช่องคลอด
รู้ดีว่าผู้หญิงเราทุกคนต้องรักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้นกันเป็น
อย่างดี แต่บางคนสะอาดมากเสียจนกระทั่งไปซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อมาล้างในช่องคลอด
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากในช่องคลอดของผู้หญิงเรามีแบคทีเรียที่เป็นมิตรชื่อว่า แลคโตแบซิลลัส ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคภายนอกที่จะเข้าไปรุกราน แต่พอโดนสวนล้างด้วยยาฆ่าเชื้อเข้าไปบ่อยๆ แบคทีเรียที่ดีจึงโดนทำลายไปด้วย
สิ่งที่ควรทำ : ควรล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นควรทำเฉพาะภายนอกเท่านั้น เลือกใช้น้ำสะอาดจะดีที่สุด
การแต่งตัวของผู้หญิงยุคนี้ เช่น การนุ่งกางเกงยีนส์รัดๆ หรือชุดชั้นในราคา
แพงบางชุดกลับรัดแน่น ผลิตจากผ้าใยสังเคราะห์
เหล่านี้จะทำให้เกิดการอับชื้นภายในจุดซ่อนเร้น
หากเหงื่อออกมากก็อาจหมักหมมจนเป็นบ่อเกิดของเชื้อราได้
มีงานวิจัยบอกว่าผู้หญิงที่นุ่งยีนส์เป็นประจำมีโอกาสเป็นเชื้อราในร่มผ้า
มากกว่าผู้หญิงที่นุ่งกระโปรง
สิ่งที่ควรทำ : อย่าลืมคว้ากระโปรงในตู้มาทำความสะอาด
สวมชุดชั้นในก็ควรเลือกที่ทำจากผ้าฝ้ายที่ไม่รัด
และไม่ควรใช้ชุดชั้นในร่วมกับผู้อื่นอย่างเด็ดขาด
- แผ่นอนามัยอุปสรรคอากาศถ่ายเท
นอกจากการมีรอบเดือนที่ทำให้ผู้หญิงเราต้องใช้ผ้าอนามัยแล้ว
ผู้หญิงยุคใหม่หลายคนยังนิยมใช้ผ้าอนามัยแผ่นเล็กทุกวันโดยคิดว่าจะช่วยซึม
ซับตกขาวไม่ให้เปื้อนชุดชั้นใน
หรือบางคนใช้เพราะขี้เกียจซักกางเกงในบ่อยๆ!!
แต่รู้หรือไม่ว่าแผ่นอนามัยเหล่านั้นผลิตจากใยสังเคราะห์ที่เป็นตัวการปิด
กั้นอากาศที่ไหลเวียนในบริเวณนั้น จนเกิดความอับชื้นรุนแรง
สิ่งที่ควรทำ : แผ่นอนามัยแผ่นเล็กไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้
ถ้ามีตกขาวมากควรเตรียมชุดชั้นในไปเปลี่ยน
หรือหาซื้อกางเกงในชนิดที่มีการเสริมผ้าฝ้ายตรงเป้ากางเกงให้หนาขึ้น
จะได้ซึมซับตกขาวได้ดี กลับถึงบ้านแล้วรีบซักทำความสะอาดทันที
พฤติกรรมในห้องน้ำอาจทำให้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว เช่น
การนอนแช่ในฟองสบู่หรือเกลืออาบน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน
หรือบางคนก็ลืมรักษาความสะอาดให้ห้องน้ำที่เปลือยกายอยู่ทุกวัน
ไม่ว่าจะเป็นฝักบัว ผ้าพลาสติกหรือที่ฉีดน้ำล้างก้น การตากกางเกงชั้นใน
ในห้องน้ำที่ไม่มีแสงแดดส่องถึง
หรือแขวนผ้าเช็ดตัวทิ้งไว้ในห้องน้ำให้อับชื้น ทั้งที่อาบน้ำเสร็จแล้ว
ทำให้เป็นบ่อเกิดของเชื้อรา ของเหล่านี้เคยมีคนวิเคราะห์ส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ แล้วพบว่าเต็มไปด้วยเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย
สิ่งที่ควรทำ : ทำความสะอาดอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และควรตากชุดชั้นใน ผ้าเช็ดตัวให้แดดส่องถึง และซักบ่อยๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ห้องสมุด E-LIB
เครดิตเกี่ยวกับความรู้ดีดีนี่ต้องยกให้ คลังปัญญาไทยเลยค่ะ
รู้อาการและวิธีการรักษาแล้ว ก็อย่าลืมทำตามอย่างเคร่งครัด เพื่อสุขอนามัยที่ดีนะค่ะคุณผู้หญิงทั้งหลาย
ดอกไม้บาน ไปก่อนเด้อคร้า
|