ชีวิตของคนเรา..เมื่อเดินทางมาถึงจุด ๆ หนึ่ง..ที่เราสามารถรู้อะไรๆ ด้วยตัวเองได้
เราก็จะคิดได้ว่า..เราเกิดมาไม่ได้เพื่อใคร..แต่เราเกิดมาเพื่อให้เป็นไปตามวัฎฏะแห่งชีวิต
คนเราทุกคน..มีที่มาที่ไปของตนทั้งนั้น..ไม่มีใครที่จะเป็นเหมือนใครได้..และไม่มีใคร
ที่จะหนีพ้นวิถีทางแห่งตนพ้นได้เช่นกัน..ทั้งหลายทั้งมวล..ดูเหมือนเราจะกำหนดตัวเราเองได้
แต่หากลองมองดูจริง ๆ แล้ว..เราจะเห็นว่า..เราต่างหากที่ถูกลิขิตหนทางไว้แล้ว...โดยใครคนหนึ่ง
ที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยเจอ..
วันหนึ่งหากลองนั่งนิ่ง ๆ แล้วมองย้อนไปหาเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่าน..ลองดูสิ..อาจจะเห็นว่า...
มีเหตุการณ์บางอย่าง หรือหลาย ๆ อย่าง มันเกิดขึ้นกับเรา..ราวกับว่า..ได้ถูกอัดซ้ำแล้วซ้ำอีก
เหมือนเทปที่ถูกกรอกลับไป-มา หลายเที่ยว...เพียงแต่ว่า..เหตุการณ์นั้น ๆ อาจต่างเวลา และวาระกัน
ชีวิตคนเราก็เหมือนกับ "สายน้ำ" ที่ไม่เคยไหลย้อนกลับได้...สายทางแห่งชีวิต ดำเนินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ
เราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่า..วินาทีต่อไปจะมีอะไรเกิดขึ้น..วันพรุ่งนี้, เดือนหน้า, ปีหน้า หรือปีต่อ ๆ ไป
สำหรับเราจะมาถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้...
เมื่อคิดได้อย่างนี้แล้ว...การดำรงชีวิตที่ตั้งอยู่บนสติ..จะช่วยให้เรา รู้แจ้งว่า.."กระทำวินาทีนี้ ที่เรา..ยังมี
ลมหายใจอยู่ ให้ดีที่สุด" เพื่อที่ว่า..หากเวลาแห่ง..สุดท้ายมาถึง เราจะไม่รู้สึกเสียใจเลย...
ทั้งนี้การที่เรารู้แจ้งของชีวิต..มิใช่ว่า..เราจะพึงปฏิบัติชีวิต อย่างที่เราต้องการ..แต่เราควรจะคิดคำนึงว่า.. เราจะปฏิบัติเวลาแห่งชีวิตของเราเช่นไรมากกว่า...
หนึ่งชีวิตที่บังเกิดมา..มันมีค่าอยู่ในตัวของมันเอง..ไม่มีใครเกิดมาอย่างไร้ค่า..เพราะอย่างน้อย..
ผู้เป็นเจ้าของชีวิตนั่นล่ะ ที่ควรจะรู้ค่าของตนเองมากกว่าใครๆ ...
โลกใบนี้..มีอะไร ๆ มากมายที่เรายังไม่พบเจอ..ไม่มีใครที่จะทุกข์ที่สุด..และไม่มีใครที่จะสุขที่สุดเช่นกัน
เพราะทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ "มโนสำนึก" ของตน...
"อาจจะมีใครก็ตามที่เคยทำร้ายคุณ..แต่ขออย่างหนึ่งว่า..อย่าให้ตัวคุณเป็นคนทำร้ายตัวเอง
..จะสุข จะทุกข์ อยู่ที่เรา..เลือกเอาสิว่า..จะให้ชีวิตของตนเป็นแบบไหน.."
|